การวัดระดับอุปนิสัยของนักศึกษาคณะสารสนเทศและการสื่อสาร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ โดยใช้หลักการเจ็ดอุปนิสัย พัฒนาสู่ผู้มีประสิทธิผลสูง

Abstract

การค้นคว้าแบบอิสระครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับอุปนิสัยพัฒนาสู่ผู้มีประสิทธิผลสูง 7 ประการ ตามหลักการของ Stephen R. Covey และหาความสัมพันธ์ระหว่างระดับอุปนิสัยกับคุณลักษณะทั่วไปของนักศึกษาคณะสารสนเทศและการสื่อสาร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ โดยใช้แบบสอบถามในการเก็บรวบรวมข้อมูลจากประชากรจำนวน 192 คน สถิติที่ใช้ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน เปรียบเทียบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยโดยใช้วิธีตารางไขว้ (Cross Tabs) และการวิเคราะห์สหสัมพันธ์ ผลการศึกษาพบว่า ประชากรส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีอายุ 20-21 ปี ชั้นปีที่ 4 มีผลการเรียนเฉลี่ยภาคการศึกษาล่าสุดและผลการเรียนเฉลี่ยสะสม 2.51-3.25 เป็นบุตรคนสุดท้อง มีจำนวนพี่น้อง 1-2 คน พักอยู่กับบิดาและมารดา ส่วนใหญ่บิดา/มารดาอยู่ด้วยกัน บิดาและมารดาเป็นข้าราชการ มีเพื่อนสนิท 1-2 คน ไม่เคยทำงานพิเศษหรือรายได้เสริม เคยเป็นผู้ริเริ่ม หรือผู้มีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมของนักศึกษา เคยสมัครเข้าร่วมกิจกรรมสโมสรนักศึกษาโดยสมัครใจ มีความเต็มใจในการเข้าร่วมกิจกรรมที่ทางสโมสรนักศึกษาหรือมหาวิทยาลัยจัดให้อยู่ในระดับเต็มใจ และไม่เคยมีประสบการณ์การเรียนรู้เกี่ยวกับเจ็ดอุปนิสัยพัฒนาสู่ผู้มีประสิทธิผลสูง ประชากรมีค่าเฉลี่ยของอุปนิสัยที่ 1 บี-โปรแอกทีฟสูงที่สุด รองลงมาคือ บัญชีออมใจ อุปนิสัยที่ 7 ลับเลื่อยให้คมอยู่เสมอ อุปนิสัยที่ 5 เข้าใจผู้อื่นก่อน แล้วจึงให้ผู้อื่นเข้าใจเรา อุปนิสัยที่ 4 คิดแบบชนะ/ชนะ ความสมดุลในการดำเนินชีวิต อุปนิสัยที่ 6 ผนึกพลังประสานความต่าง อุปนิสัยที่ 2 เริ่มต้นด้วยจุดมุ่งหมายในใจ และอุปนิสัยที่ 3 ทำสิ่งที่สำคัญก่อน ตามลำดับ โดยมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับค่อนข้างมากทั้งหมด เมื่อคิดเป็นกลุ่มอุปนิสัยแล้วพบว่า มีค่าเฉลี่ยของบัญชีออมใจสูงที่สุด รองลงมาคือ กลุ่มอุปนิสัยเพื่อชัยชนะในสังคม ความสมดุลในการดำเนินชีวิต ภาพรวม 7 อุปนิสัยสำหรับผู้ทรงประสิทธิผลยิ่ง และอุปนิสัยกลุ่มชัยชนะส่วนตน ตามลำดับ โดยอุปนิสัยทั้งหมดมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับค่อนข้างมาก คุณลักษณะทั่วไปมีค่าเฉลี่ยของระดับบัญชีออมใจ อยู่ในระดับค่อนข้างมากมาก ยกเว้น คุณลักษณะย่อย ได้แก่ นักศึกษาที่มีอายุ 22-23 ปี กำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 4 เกรดเฉลี่ยภาคการศึกษาล่าสุด 3.26-4.00 เกรดเฉลี่ยสะสม 3.26-4.00 จำนวนพี่น้อง 3-4 คน บิดาเสียชีวิต มารดามีอาชีพเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจ และไม่เต็มใจเข้าร่วมโครงการที่ทางสโมสรนักศึกษา คณะ หรือมหาวิทยาลัยจัดให้ มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก คุณลักษณะทั่วไปมีค่าเฉลี่ยของระดับความสมดุลในการดำเนินชีวิต อยู่ในระดับค่อนข้างมาก ยกเว้น คุณลักษณะย่อย ได้แก่ นักศึกษาที่มีอายุ 22-23 ปี เกรดเฉลี่ยสะสม 3.26-4.00 จำนวนพี่น้อง 5 คนขึ้นไป บิดามีอาชีพเป็นพนักงานบริษัทเอกชนและ/หรือเสียชีวิต และไม่เต็มใจเข้าร่วมโครงการที่ทางสโมสรนักศึกษา คณะ หรือมหาวิทยาลัยจัดให้ มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก คุณลักษณะทั่วไปมีค่าเฉลี่ยของระดับกลุ่มอุปนิสัยเพื่อชัยชนะส่วนตน อยู่ในระดับค่อนข้างมาก ยกเว้น คุณลักษณะย่อย ได้แก่ นักศึกษาที่มีอายุ 24 ปีขึ้นไป บิดามีอาชีพเป็นพนักงานบริษัทเอกชน และไม่เต็มใจเข้าร่วมโครงการที่ทางสโมสรนักศึกษา คณะ หรือมหาวิทยาลัยจัดให้ มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก คุณลักษณะทั่วไปมีค่าเฉลี่ยของระดับกลุ่มอุปนิสัยเพื่อชัยชนะในสังคม อยู่ในระดับค่อนข้างมาก ยกเว้น คุณลักษณะย่อย ได้แก่ นักศึกษาที่มีอายุ 22-23 ปี กำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 3 เกรดเฉลี่ยภาคการศึกษาล่าสุด 3.26-4.00 เกรดเฉลี่ยสะสม 3.26-4.00 เป็นบุตรคนกลาง บิดามีอาชีพเป็นพนักงานบริษัทเอกชน มารดาเสียชีวิต และไม่เต็มใจเข้าร่วมโครงการที่ทางสโมสรนักศึกษา คณะ หรือมหาวิทยาลัยจัดให้ มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก คุณลักษณะทั่วไปมีค่าเฉลี่ยของระดับภาพรวม 7 อุปนิสัยพัฒนาสู่ผู้มีประสิทธิภาพสูงอยู่ในระดับค่อนข้างมาก ยกเว้น คุณลักษณะย่อย ได้แก่ นักศึกษาที่มีอายุ 22-23 ปี เป็นบุตรคนกลาง และไม่เต็มใจเข้าร่วมโครงการที่ทางสโมสรนักศึกษา คณะ หรือมหาวิทยาลัยจัดให้ มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างอุปนิสัย พบว่า อุปนิสัยตามหลักการเจ็ดอุปนิสัยพัฒนาสู่ผู้มีประสิทธิผลสูง ได้แก่ บัญชีออมใจ ความสมดุลในการดำเนินชีวิต และอุปนิสัยที่ 1 ถึง อุปนิสัยที่ 7 มีความสัมพันธ์กันทางบวกกับทุกอุปนิสัย อายุ มีความสัมพันธ์ทางบวก ในระดับต่ำกับ ความสมดุลในการดำเนินชีวิต อุปนิสัยที่ 2 การเริ่มต้นด้วยจุดหมายในใจ อุปนิสัยที่ 7 การลับเลื่อยให้คมอยู่เสมอ บัญชีออมใจ อุปนิสัยที่ 4 การคิดแบบชนะ/ชนะ อุปนิสัยที่ 5 เข้าใจผู้อื่นก่อนจะให้ผู้อื่นเข้าใจเรา อุปนิสัยที่ 6 การผนึกพลังประสานความต่าง อุปนิสัยที่ 1 บี-โปรแอกทีฟ และมีความสัมพันธ์ทางบวกในระดับปานกลางกับ ภาพรวม 7 อุปนิสัยสำหรับผู้ทรงประสิทธิผลสูง กลุ่มอุปนิสัยเพื่อชัยชนะส่วนตน อุปนิสัยที่ 3 การทำตามลำดับความสำคัญ และกลุ่มอุปนิสัยเพื่อชัยชนะในสังคม จำนวนพี่น้อง มีความสัมพันธ์ทางบวก ในระดับต่ำกับ อุปนิสัยที่ 6 การผนึกพลังประสานความต่าง อุปนิสัยที่ 4 การคิดแบบชนะ/ชนะ อุปนิสัยที่ 3 การทำตามลำดับความสำคัญ ภาพรวม 7 อุปนิสัยสำหรับผู้ทรงประสิทธิผลสูง อุปนิสัยที่ 1 บี-โปรแอกทีฟ ความสมดุลในการดำเนินชีวิต กลุ่มอุปนิสัยเพื่อชัยชนะในสังคม อุปนิสัยที่ 2 การเริ่มต้นด้วยจุดหมายในใจ กลุ่มอุปนิสัยเพื่อชัยชนะส่วนตน อุปนิสัยที่ 5 เข้าใจผู้อื่นก่อนจะให้ผู้อื่นเข้าใจเรา บัญชีออมใจ แต่มีความสัมพันธ์ทางลบ ในระดับต่ำ กับอุปนิสัยที่ 7 การลับเลื่อยให้คมอยู่เสมอ จำนวนเพื่อนสนิท มีความสัมพันธ์ทางบวก ในระดับต่ำกับ อุปนิสัยที่ 5 เข้าใจผู้อื่นก่อนจะให้ผู้อื่นเข้าใจเรา อุปนิสัยที่ 2 การเริ่มต้นด้วยจุดหมายในใจ กลุ่มอุปนิสัยเพื่อชัยชนะในสังคม อุปนิสัยที่ 4 การคิดแบบชนะ/ชนะ ภาพรวม 7 อุปนิสัยสำหรับผู้ทรงประสิทธิผลสูง อุปนิสัยที่ 6 การผนึกพลังประสานความต่าง บัญชีออมใจ กลุ่มอุปนิสัยเพื่อชัยชนะส่วนตน อุปนิสัยที่ 7 การลับเลื่อยให้คมอยู่เสมอ อุปนิสัยที่ 3 การทำตามลำดับความสำคัญ แต่มีความสัมพันธ์ทางลบ ในระดับต่ำ กับความสมดุลในการดำเนินชีวิต และอุปนิสัยที่ 1 บี-โปรแอกทีฟ เกรดเฉลี่ยภาคการศึกษาล่าสุด มีความสัมพันธ์ทางบวก ในระดับต่ำกับ อุปนิสัยที่ 6 การผนึกพลังประสานความต่าง กลุ่มอุปนิสัยเพื่อชัยชนะส่วนตน ความสมดุลในการดำเนินชีวิต ภาพรวม 7 อุปนิสัยสำหรับผู้ทรงประสิทธิผลสูง อุปนิสัยที่ 3 การทำตามลำดับความสำคัญ อุปนิสัยที่ 1 บี-โปรแอกทีฟ อุปนิสัยที่ 2 การเริ่มต้นด้วยจุดหมายในใจ กลุ่มอุปนิสัยเพื่อชัยชนะในสังคม อุปนิสัยที่ 7 การลับเลื่อยให้คมอยู่เสมอ อุปนิสัยที่ 5 เข้าใจผู้อื่นก่อนจะให้ผู้อื่นเข้าใจเรา บัญชีออมใจ และอุปนิสัยที่ 4 การคิดแบบชนะ/ชนะ เกรดเฉลี่ยสะสม มีความสัมพันธ์ทางบวก ในระดับต่ำกับ อุปนิสัยที่ 3 การทำตามลำดับความสำคัญ กลุ่มอุปนิสัยเพื่อชัยชนะส่วนตน ภาพรวม 7 อุปนิสัยสำหรับผู้ทรงประสิทธิผลสูง อุปนิสัยที่ 6 การผนึกพลังประสานความต่าง ความสมดุลในการดำเนินชีวิต อุปนิสัยที่ 2 การเริ่มต้นด้วยจุดหมายในใจ อุปนิสัยที่ 1 บี-โปรแอกทีฟ บัญชีออมใจ กลุ่มอุปนิสัยเพื่อชัยชนะในสังคม อุปนิสัยที่ 4 การคิดแบบชนะ/ชนะ อุปนิสัยที่ 7 การลับเลื่อยให้คมอยู่เสมอ และอุปนิสัยที่ 5 เข้าใจผู้อื่นก่อนจะให้ผู้อื่นเข้าใจเรา