Please use this identifier to cite or link to this item: http://cmuir.cmu.ac.th/jspui/handle/6653943832/78284
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.advisorอุดมโชค อาษาวิมลกิจ-
dc.contributor.authorณัฏฐ์ ชอุ่มดวงen_US
dc.date.accessioned2023-07-03T09:31:46Z-
dc.date.available2023-07-03T09:31:46Z-
dc.date.issued2023-04-
dc.identifier.urihttp://cmuir.cmu.ac.th/jspui/handle/6653943832/78284-
dc.description.abstractThe objectives of this research were: 1) to study the operation of the information system development’s project phase 2, Uttaradit Provincial Land Office, Tron branch, and 2) to study the effect of the information system development’s project phase 2 on the effectiveness of the information system of right and legal registration, Uttaradit Provincial Land Office, Tron branch. The population of this research was 15 officers working under the information system of the Uttaradit Provincial Land Office, Tron branch. Consists of 1 land officer of Uttaradit Provincial Land Office, Tron branch, 5 registration officers, 4 administration officers and 5 surveyors. This was the mixed methods research. It was conducted for collection of data from the interview and using the daily report statistics of the Uttaradit Provincial Land Office, Tron branch, for 1 year The result of this research indicated that a number of legal acts in terms of before and after the beginning of the information system development’s project phase 2 were different numbers in many points. Mostly, before the beginning of the project phase 2, the legal acts of sale, consignment, type, and inheritance had more numbers of people taking services than after the beginning of the project phase 2. Other types of the legal acts, except the mortgage and miscellaneous legal acts had less numbers of people taking services than before the beginning of the project phase 2. . Regarding the period of legal action service, it was found that before the beginning of the project phase 2, the legal acts of sale and type took time for services faster than after the beginning of the project phase 2. After the beginning of the project phase 2, the legal acts of consignment and inheritance took time for services faster than before the beginning of the project phase 2. The statistics of taking the longest time service were found that after the beginning of the project phase 2 had taken long time more than before the beginning of the project phase 2. The legal act that took a lot of time was the legal act of inheritance, followed by the legal acts of sale, type, and mortgage respectively. Except for the legal act of miscellaneous, before the beginning of the project phase 2 took more time than after the beginning of the project phase 2. The statistics of taking the shortest time service were found that before the beginning of the project phase 2, the legal acts of sale and type took time for legal action service less than after the beginning of the project phase 2. For the legal acts of consignment and inheritance, after the beginning of the project phase 2 type took time for legal action service less than before the beginning of the project phase 2. Overview of the land information system development’s project phase 2. The land officers, who worked in the Land Office while the Land Office had switched to the project phase 2, were received the training in using the basic system including separate training sessions for each division to suit with their duties. It had a basic system manual for everyone and personnel manual for each division to know the procedure and operational processes under the project phase 2. The results of the land information system development’s project phase 2. They were found that the program, which was used in the operation of the Land Office, had been developed from the information system phase 1 to the project phase 2 in order to respond the complex needs of the private sector nowadays including what will happen in the future. Moreover, the change of the information system from phase 1 to phase 2 had a great benefit to the surveyor division. According to the study results from the overall surveyor division, they were satisfied with the project phase 2 because there were few usage limitations. For the effectiveness of the information system, the information system quality had more stable than the information system project phase 1. It helped to decrease the operational time and had the strong security. The quality of the data’s system had increased, it was easier for the users to access and could take advantage to the registration of rights and legal registration. However, this system had added more steps causing delays in the work of the finance and accounting division. In terms of the use of information system, it was found that the users intended to take advantage of this new system. The effectiveness of the work process corresponds to the objectives of the land information system development’s project phase 2 which the Department of Lands tries to improve and develop land data in digital form or as a database that can be processed, analysis, and planning of the Department of Lands. Including the use of the information system that is the same throughout the country in order to have an update the data to be up-to-date.en_US
dc.language.isootheren_US
dc.publisherเชียงใหม่ : บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่en_US
dc.titleประสิทธิผลงานบริการด้านนิติกรรมที่ดิน ภายใต้โครงการพัฒนาระบบสารสนเทศที่ดิน (ระยะที่ 2) กรณีศึกษา สำนักงานที่ดินจังหวัดอุตรดิตถ์ สาขาตรอนen_US
dc.title.alternativeEffectiveness of land legal services under the land information system development project (Phase 2), A Case study of Uttaradit Provincial Land Office,Tron Branchen_US
dc.typeIndependent Study (IS)
thailis.controlvocab.thashสำนักงานที่ดินจังหวัดอุตรดิตถ์-
thailis.controlvocab.thashระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ-
thailis.controlvocab.thashระบบข้อมูลที่ดิน-
thesis.degreemasteren_US
thesis.description.thaiAbstractการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการดำเนินงานตามโครงการพัฒนาระบบสารสนเทศระยะที่ 2 ของสำนักงานที่ดินจังหวัดอุตรดิตถ์ สาขาตรอน และเพื่อศึกษาผลของโครงการพัฒนาระบบสารสนเทศ ระยะที่ 2 ที่มีต่อประสิทธิผลการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมของสำนักงานที่ดินจังหวัดอุตรดิตถ์ สาขาตรอน ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานภายใต้ระบบสารสนเทศของสำนักงานที่ดินอุตรดิตถ์ สาขาตรอน จำนวน 15 คน ประกอบด้วย เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดอุตรดิตถ์ สาขาตรอน จำนวน 1 คน เจ้าหน้าที่ฝ่ายทะเบียน จำนวน 5 คน เจ้าหน้าที่ฝ่ายอำนวยการ จำนวน 4 คน และเจ้าหน้าที่ฝ่ายรังวัด จำนวน 5 คน การศึกษาวิจัยครั้งนี้เป็นการศึกษาวิจัยแบบผสม วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลโดยวิธีการแบบสัมภาษณ์ รวมถึงใช้ข้อมูลสถิติรายงานประจำวันของสำนักงานที่ดินจังหวัดอุตรดิตถ์ สาขาตรอน ระยะเวลา 1 ปี ผลการศึกษา พบว่า จำนวนนิติกรรม ก่อนและหลังเริ่มโครการพัฒนาระบบสารสนเทศที่ดิน ระยะที่ 2 พบว่า โดยส่วนมากก่อนเริ่มโครงการฯ ระยะที่ 2 นิติกรรมประเภทขาย ขายฝาก ให้ มรดก มีจำนวนที่ประชาชนมาดำเนินการมากกว่าภายหลังเริ่มโครงการฯ ระยะที่ 2 นิติกรรมประเภทอื่น ยกเว้นนิติกรรม ประเภทจำนอง และนิติกรรมประเภทเบ็ดเตล็ด ที่มีจำนวนที่ประชาชนมาดำเนินการน้อยกว่าก่อนเริ่มโครงการฯ ระยะที่ 2 ด้านระยะเวลาการให้บริการนิติกรรมพบว่า ก่อนเริ่มโครงการฯ ระยะที่ 2 นิติกรรมประเภทขายและนิติกรรมประเภทให้ ใช้ระยะ เวลาการทำนิติกรรมรวดเร็วกว่าภายหลังเริ่ม โครงการฯ ระยะที่ 2 และภายหลังเริ่มโครงการฯ ระยะที่ 2 นิติกรรมประเภทขายฝากและนิติกรรม ประเภทมรดก ใช้ระยะเวลาในการทำนิติกรรมรวดเร็วกว่า ก่อนเริ่มโครงการฯ ระยะที่ 2 ด้านของสถิติที่ใช้เวลามากที่สุดพบว่า ภายหลังเริ่มโครงการฯ ระยะที่ 2 มีการใช้ระยะ เวลามากกว่าก่อนเริ่มโครงการฯ ระยะที่ 2 ส่วนนิติกรรมที่ใช้ระยะเวลามากคือ นิติกรรมประเภทมรดก รองลงมาคือนิติกรรมประเภทขาย ให้ และนิติกรรมประเภทจำนองตามลำดับ ยกเว้นนิติกรรมประเภทเบ็ดเตล็ด ก่อนเริ่มโครงการฯ ระยะที่ 2 ใช้ระยะเวลาการทำนิติกรรมมากกว่า ภายหลังเริ่มโครงการฯ ระยะที่ 2 ด้านของสถิตินิติกรรมที่ใช้เวลาน้อยที่สุด พบว่า ก่อนเริ่มโครงการฯ ระยะที่ 2 นิติกรรมประเภทขาย ให้ ใช้ระยะเวลาทำนิติกรรมน้อยกว่า ภายหลังเริ่มโครงการฯ ระยะที่ 2 และนิติกรรมประเภทขายฝาก มรดก ภายหลังเริ่มโครงการฯ ระยะที่ 2 ใช้ระยะเวลาทำนิติกรรมน้อยกว่าก่อนเริ่มโครงการฯ ระยะที่ 2 ภาพรวมของโครงการพัฒนาระบบสารสนเทศที่ดินระยะที่ 2 ผู้ปฏิบัติงาน ที่ปฏิบัติหน้าที่ในสำนักงานที่ดิน ขณะที่สำนักงานที่ดินได้เปลี่ยนเข้าสู่โครงการฯ ระยะที่ 2 นี้ โดยได้รับการอบรมการเข้าใช้ระบบเบื้องต้น รวมถึงการแยกอบรมสำหรับแต่ละฝ่าย เพื่อให้เหมาะกับหน้าที่ของแต่ละฝ่าย โดยได้มีคู่มือการใช้งานระบบพื้นฐานสำหรับทุกคน และคู่มือเฉพาะบุคลากรประจำฝ่ายนั้นๆ เพื่อทราบถึงขั้นตอน และกระบวนการดำเนินงานภายใต้โครงการฯ ระยะที่ 2 ด้านของผลการดำเนินงานตามโครงการพัฒนาระบบสารสนเทศที่ดินระยะที่ 2 พบว่า โปรแกรมที่ใช้ในการดำเนินงานของสำนักงานฯ ได้มีการพัฒนาจากระบบสารสนเทศระยะที่ 1 เข้าสู่โครงการฯ ระยะที่ 2 เพื่อตอบสนองความซับซ้อนของความต้องการของภาคเอกชน ณ ปัจจุบัน รวมถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และการเปลี่ยนแปลงระบบสารสนเทศจากระยะที่ 1 เข้าสู่ระยะที่ 2 ส่งผลดีต่อฝ่ายรังวัดเป็นอย่างมาก จากผลการศึกษาของฝ่ายรังวัดโดยรวมมีความพึงพอใจต่อโครงการฯ ระยะที่ 2 เนื่องจากมีข้อจำกัดด้านการใช้งานน้อย ส่วนของประสิทธิผลของระบบสารสนเทศ คุณภาพระบบสารสนเทศ มีความเสถียรขึ้นกว่าโครงการพัฒนาระบบสารสนเทศระยะแรก ช่วยลดระยะเวลาการปฏิบัติงาน และมีความปลอดภัยรัดกุม คุณภาพข้อมูลของระบบเพิ่มสูงขึ้นทำให้ผู้ปฏิบัติงานเข้าถึงได้ดีและใช้ประโยชน์ต่อระบบการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม อย่างไรก็ตามระบบดังกล่าวมีการเพิ่มขั้นตอนการทำงานมากขึ้น ทำให้เกิดความล่าช้าในการทำงานด้านบัญชีและการเงิน แต่ในแง่การใช้งานระบบสารสนเทศ พบว่าผู้ปฏิบัติงานมีความตั้งใจที่จะใช้ประโยชน์จากระบบใหม่ ส่วนของประสิทธิผลของกระบวน การทำงาน สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของโครงการพัฒนาระบบสารสนเทศที่ดิน ระยะที่ 2 ซึ่งกรมที่ดินพยายามที่จะปรับปรุงพัฒนา ข้อมูลที่ดินในรูปแบบ Digital หรือเป็นฐานข้อมูลที่สามารถนำข้อมูลทำการประมวลผล สำหรับการวิเคราะห์ วางแผน ของกรมที่ดิน รวมถึงการใช้ระบบงานสารสนเทศที่เป็นรูปแบบเดียวกันทั่วประเทศ เพื่อให้มีการUpdate ข้อมูลให้เป็นปัจจุบันen_US
Appears in Collections:POL: Independent Study (IS)

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
641932025-ณัฏฐ์ ชอุ่มดวง.pdf1.96 MBAdobe PDFView/Open    Request a copy


Items in CMUIR are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.