ปัจจัยทำนายความตั้งใจปฏิบัติการป้องกัน การติดเชื้อวัณโรคของพยาบาลวิชาชีพในโรงพยาบาลทั่วไป

Abstract

การติดเชื้อวัณโรคในบุคลากรทางการพยาบาลเป็นปัญหาสำคัญและส่งผลกระทบที่รุนแรง การวิจัยเชิง ทำนายนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาเจตคติต่อพฤติกรรม บรรทัดฐานของกลุ่มอ้างอิง การรับรู้การควบคุม พฤติกรรม และความตั้งใจปฏิบัติการป้องกันการติดเชื้อวัณโรคของพยาบาลวิชาชีพในโรงพยาบาลทั่วไป รวมทั้งศึกษาปัจจัยทำนายความตั้งใจปฏิบัติการป้องกันการติดเชื้อวัณโรคของพยาบาลวิชาชีพในโรงพยาบาลทั่วไป กลุ่มตัวอย่าง คือ พยาบาลวิชาชีพที่ ปฏิบัติงานในหอผู้ป่วยแผนกอายุรกรรมโรงพยาบาลทั่วไป จำนวน 93 คน โดยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน เก็บรวบรวมข้อมูลในเดือนกรกฎาคม 2556 โดยใช้แบบสอบถามที่ ผู้วิจัยสร้างขึ้น และได้รับการตรวจสอบความตรงตามเนื้อหาโดยผู้ทรงคุณวุฒิ 5 ท่าน ได้ค่าดัชนีความตรงตาม เนื้อหาเท่ากับ 0.80 และค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.93 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา และการวิเคราะห์ ถดถอยพหุคูณแบบขั้นตอน ผลการวิจัย พบว่า กลุ่มตัวอย่างมี เจตคติต่อพฤติกรรม บรรทัดฐานของกลุ่มอ้างอิง การรับรู้การควบคุม พฤติกรรม และความตั้งใจปฏิบัติ การป้องกันการติดเชื้อวัณโรคที่ดี และมีเพียงการรับรู้ การควบคุมพฤติกรรม เท่านั้นที่สามารถทำนายความตั้งใจปฏิบัติการป้องกันการติดเชื้อวัณโรคของพยาบาลวิชาชีพได้ร้อยละ 25.60 ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.001 ผลการวิจัยครั้งนี้มีข้อเสนอแนะสำหรับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ หอผู้ป่วย หรือ หน่วยงานด้านการ ป้องกันและควบคุมการติดเชื้อ ควรสนับสนุนให้พยาบาลวิชาชีพมีการรับรู้การควบคุมพฤติกรรมการปฏิบัติ การป้องกันการติดเชื้อวัณโรค เพื่อให้พยาบาลวิชาชีพมีความตั้งใจปฏิบัติการป้องกันการติดเชื้อวัณโรคต่อไป

Mycobacterium infection among nursing personnel is a major problem with severe impacts.This predictive research aimed to study attitudes toward the behaviors, subjective norm, perceivedbehavioral control and intention for tuberculosis infection prevention among registered nurses.The study also investigated factors predicting practice intention for tuberculosis infectionprevention among registered nurses in general hospitals. The sample consisted of registered nurses(n=93) working in medical wards in general hospitals selected using a multi-stage sampling method.Data were collected using questionnaires which were validated by 5 experts and had a contentvalidity index of 0.80. Reliability of the questionnaires was 0.93. Data were analyzed using descriptivestatistics and stepwise multiple regression. The results of this study revealed that subjects had good attitudes toward behaviors, subjectivenorm, perceived behavioral control and intention for tuberculosis infection prevention. In addition, perceived behavioral control was the only factor that predictied practice intention for tuberculosis infection prevention and may explain 25.6% of the variability of intention (p < 0.00) Based on the results of this study, it is suggested that relevant authorities including wards and infection control units should support perceived behavioral control among registerednurses to encourage tuberculosis infection prevention intention for tuberculosis infectionprevention.