Please use this identifier to cite or link to this item:
http://cmuir.cmu.ac.th/jspui/handle/6653943832/67270
Title: | ปัจจัยทำนายการปฏิบัติป้องกันอาการชักในเด็กของผู้ดูแล |
Other Titles: | Factors Predicting Seizure Prevention Practices in Children Among Caregivers |
Authors: | ณัฐนรี อนุกูลวรรธกะ พัชราภรณ์ อารีย์ สุธิศา ล่ามช้าง |
Authors: | ณัฐนรี อนุกูลวรรธกะ พัชราภรณ์ อารีย์ สุธิศา ล่ามช้าง |
Keywords: | ผู้ดูแลเด็กที่มีอาการชัก การปฏิบัติป้องกันอาการชักในเด็ก;การรับรู้ความรุนแรงของโรค;การรับรู้อุปสรรคของการปฏิบัติพฤติกรรม และการรับรู้สมรรถนะแห่งตนของผู้ดูแล |
Issue Date: | 2560 |
Publisher: | คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ |
Citation: | พยาบาลสาร 44, 4 (ต.ค.-ธ.ค. 2560), 1-12 |
Abstract: | อาการชักในเด็กส่งผลต่อภาวะสุขภาพของเด็กและผู้ดูแล การปฏิบัติป้องกันของผู้ดูแลจะช่วยให้เด็กควบคุมอาการชักได้ การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยแบบหาความสัมพันธ์เชิงทำนายเพื่อศึกษาปัจจัยทำนายการรับรู้ความรุนแรงของโรค การรับรู้อุปสรรคของการปฏิบัติพฤติกรรม และการรับรู้สมรรถนะแห่งตนของผู้ดูแลต่อการปฏิบัติป้องกันอาการชักในเด็กของผู้ดูแล กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้ดูแลหลักของเด็กที่มีอาการชักอายุ 1 เดือน ถึง 6 ปี ที่เข้ารับการตรวจรักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ โรงพยาบาลเชียงรายประชานุ-เคราะห์ โรงพยาบาลลำปาง และโรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก โดยเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจงจำนวน 74 ราย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย แบบสอบถามความรุนแรงของโรคตามการรับรู้ของผู้ดูแล แบบสอบถามการรับรู้อุปสรรคของการปฏิบัติพฤติกรรม แบบสอบถามการรับรู้สมรรถนะแห่งตน และแบบสอบถามการปฏิบัติการป้องกันอาการชักในเด็กของผู้ดูแล วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โดยใช้สถิติพรรณนา และการวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณแบบขั้นตอน ผลการวิจัยพบว่า ผู้ดูแลมีคะแนนการปฏิบัติป้องกันอาการชักในเด็กโดยรวมอยู่ในระดับสูง โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 87.26 และเมื่อพิจารณารายด้านพบว่า ผู้ดูแลมีคะแนนการปฏิบัติด้านการจัดการภาวะไข้ ด้านการใช้ยากันชักและติดตามการรักษา และด้านการดูแลกิจวัตรประจำวันทั่วไปอยู่ในระดับสูง โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 26.32, 22.70 และ 11.56 ตามลำดับ ส่วนด้านการหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นอยู่ในระดับปานกลาง โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 27.24. ผู้ดูแลมีคะแนนการรับรู้อุปสรรคของการปฏิบัติพฤติกรรมอยู่ในระดับต่ำ โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 39.64 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 11.47, คะแนนการรับรู้ความรุนแรงของโรคอยู่ในระดับมาก โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.28 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 1.00 และคะแนนการรับรู้สมรรถนะแห่งตนอยู่ในระดับสูง โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 107.24 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 14.33 การรับรู้อุปสรรคของการปฏิบัติพฤติกรรม และการรับรู้ความรุนแรงของโรค มีความสามารถในการร่วมกันทำนายการปฏิบัติการป้องกันอาการชักในเด็กได้ร้อยละ 46.0 (R2 = .460, p < .001) ผลการศึกษาครั้งนี้ สามารถนำไปใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานในการปฏิบัติป้องกันอาการชักในเด็ก และสามารถใช้เป็นแนวทางในการส่งเสริมการปฏิบัติป้องกันอาการชักในเด็กของผู้ดูแลต่อไป |
Description: | วารสารพยาบาลเป็นวารสารทางวิชาการที่เผยแพร่ความรู้ทางการพยาบาลและการผดุงครรภ์ รวมทั้งความรู้ใหม่ในวงการสุขภาพที่เกี่ยวข้องและเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็น และ ประสบการณ์เกี่ยวกับวิชาชีพการพยาบาลอีกทั้งเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้ร่วมวิชาชีพและภาพลักษณ์ของวิชาชีพการพยาบาล จัดทำโดย สมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ กำหนดออกปีละ 4 ฉบับ |
URI: | https://he02.tci-thaijo.org/index.php/cmunursing/article/view/135572/101295 http://cmuir.cmu.ac.th/jspui/handle/6653943832/67270 |
ISSN: | 0125-5118 |
Appears in Collections: | CMUL: Journal Articles |
Files in This Item:
There are no files associated with this item.
Items in CMUIR are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.