Please use this identifier to cite or link to this item: http://cmuir.cmu.ac.th/jspui/handle/6653943832/66466
Title: การประเมินความสามารถของต้นไม้ประดับในการดักจับอนุภาคขนาดเล็กในอาคาร
Other Titles: Assessment of the Ability of Houseplants to Trap Indoor Particulate Matter
Authors: ธนากร รัตนพันธุ์
มณีรัตน์ องค์วรรณดี
ศิริมา ปัญญาเมธีกุล
Authors: ธนากร รัตนพันธุ์
มณีรัตน์ องค์วรรณดี
ศิริมา ปัญญาเมธีกุล
Issue Date: 2560
Publisher: คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
Citation: วารสารวิศวกรรมศาสตร์ 24, 3 (ก.ย.-ธ.ค. 2560), 69-80
Abstract: ต้นไม้ประดับสามารถช่วยลดมลพิษในอาคารได้แต่ยังไม่มีการวัดความสามารถของต้นไม้ในการกำจัดอนุภาค ขนาดเล็กในอาคารด้วยวิธีที่เป็นมาตรฐานดังนั้นงานวิจัยนี้มีจุดประสงค์เพื่อประเมินความสามารถของต้นไม้ประดับใน อาคารในการดักจับอนุภาคขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน (PM2.5) ด้วยห้องทดสอบขนาดใหญ่ โดยศึกษาปัจจยัที่มีผลต่อ ความสามารถของต้นไม้คือ พื้นที่ผิวใบ และ ลักษณะใบต้นไม้ที่ใช้ในการทดสอบแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มต้นไม้ ประดิษฐ์ประกอบด้วย ต้นเฟิร์น และต้นสาวน้อยประแป้ง และกลุ่มต้นไม้จริง ประกอบด้วย ต้นพลูด่าง ต้นฤๅษีผสม และ ต้นเข็มสามสี ทำการวัดความสามารถในการดักจับ PM2.5 โดยใช้ห้องทดสอบขนาด 8 ลบ.ม. ที่มีพื้นผิวภายในห้องเป็นอะลูมิเนียม อนุภาคขนาดเล็กที่ใช้ในการทดลองได้จากการเผาไหม้ธูป โดยให้ความเข้มข้น เริ่มต้นของ PM2.5 อยู่ในช่วง 240-250 มคก./ลบ.ม. วัดความเข้มข้นอย่า งต่อเนื่องเป็นเวลา 24 ชั่วโมง จากกันนั้นข้อมูลมาพยากรณ์สัมประสิทธิ์การสูญหายของ PM2.5 จากการตกทับถมบนพื้นผิวใบ ด้วยการวิเคราะห์การถดถอยแบบไม่ เป็นเชิงเส้นตรงโดยใช้แบบจำลอง ทางคณิตศาสตร์ของสมการสมดุลมวลของ PM2.5 ในอากาศภายในห้องทดสอบ ผลการทดลองพบว่าพื้นที่ใบของต้นเฟิร์น ประดิษฐ์มีความสัมพันธ์เชิงเส้นตรงกับค่าสัมประสิทธิ์การสูญหายของ PM2.5 ที่เพิ่มขึ้น โดยมีสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ เพียร์สันเท่ากับ 0.919 ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ0.05 เมื่อวัดสัมประสิทธิ์การสูญหายของ PM2.5 ของต้นไม้ทั้ง 5 ชนิด ที่มีพื้นที่ใบทั้งหมดเท่ากัน คือ 5 ตร.ม. ได้ค่าดังนี้ต้นเฟิร์นประดิษฐ์ 0.07 ต่อชั่วโมง ต้นสาวน้อยประแป้ง 0.06 ต่อ ชั่วโมง ต้นพลูด่าง 0.06 ต่อชั่วโมง ต้นฤๅษีผสม 0.04 ต่อชั่วโมง และต้นเข็มสามสี 0.05 ต่อชั่วโมง โดยต้นฤๅษีผสมซึ่งมีลักษณะใบหยักมีขนสามารถดักจับ PM2.5 ได้สูงสุดในช่วง 3 ชั่วโมงแรก แต่ความสามารถกลับลดลงเวลาผ่านไปเนื่องจาก ผลของการคายน้ำที่ผิวใบโดยตรง
Description: วารสารวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (Engineering Journal Chiang Mai University) เป็นวารสารที่ตีพิมพ์บทความวิชาการในลักษณะบทความวิจัย และบทความปริทัศน์ที่มีคุณภาพสูง ทางด้านวิศวกรรมศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี รวมถึงสาขาอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยมีเนื้อหาที่เป็นองค์ความรู้พื้นฐานจนกระทั่งการนำไปใช้ประโยชน์ ทั้งในแง่ทฤษฎี การวางแผน การทดลอง การออกแบบ หรือการพัฒนาอุปกรณ์และการจำลองการทำงานของระบบ หรือกระบวนการต่างๆ เป็นต้น โดยเปิดรับบทความวิชาการทางสาขาวิศวกรรมศาสตร์ ตลอดทั้งปี
URI: http://researchs.eng.cmu.ac.th/UserFiles/File/Journal/24_3/08.pdf
http://cmuir.cmu.ac.th/jspui/handle/6653943832/66466
ISSN: 2672-9695
Appears in Collections:CMUL: Journal Articles

Files in This Item:
There are no files associated with this item.


Items in CMUIR are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.