ประสิทธิผลของการพยาบาลผู้ป่วยเด็กและทารกที่ใส่สายสวนหลอดเลือดดําส่วนปลายโดยใช้ชุดการดูแล งานการพยาบาลผู้ป่วยกุมารเวชศาสตร์ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่

Abstract

วัตถุประสงค์ เพื่อเปรียบเทียบผลลัพธ์ระหว่างก่อนและหลังการใช้ชุดดูแลผู้ป่วยที่ใส่สายสวนหลอดเลือดดํา ส่วนปลาย และเพื่อเปรียบเทียบการปฏิบัติของพยาบาลระหว่างก่อนและหลังการใช้ชุดดูแล วิธีการวิจัย การวิจัยนี้ศึกษาในโรงพยาบาลมหาราชนครนครเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กลุ่มตัวอย่าง ประกอบด้วยผู้ป่วยเด็กและทารกที่เข้ารับการรักษาในหอผู้ป่วยกุมารเวชกรรม และพยาบาลที่ดูแลเด็ก โดย เก็บข้อมูลตําแหน่งที่ให้สารน้ําทางหลอดเลือดดําทั้งหมดจํานวน 4,708 ตําแหน่ง และสังเกตการปฏิบัติตามชุด ดูแลของพยาบาล 140 ราย ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2554 ถึงสิงหาคม 2555 เครื่องมือที่ใช้การศึกษาประกอบด้วย 1) ชุดดูแลผู้ป่วยที่ใส่สายสวนหลอดเลือดดําส่วนปลายของ The Health Protection Scotland 2) แบบ ประเมินภาวะแทรกซ้อนจากการใส่สายสวนหลอดเลือดดําส่วนปลาย และ 3) แบบสังเกตการปฏิบัติของพยาบาล ตามชุดดูแล โดยผู้วิจัยได้จัดอบรมและให้ความรู้เรื่องการใช้ชุดดูแลแก่พยาบาล ร่วมกับจัดทํากลยุทธ์ต่าง ๆ ใน การนําชุดดูแลไปใช้ มีการสนับสนุนวัสดุที่จําเป็น และให้ข้อมูลย้อนกลับ ผู้วิจัยรวบรวมข้อมูลก่อนและหลังการ ใช้ชุดดูแล แล้วนํามาวิเคราะห์เปรียบเทียบ โดยใช้สถิติไคสแควร์ ผลการศึกษา พบว่าหลังการใช้ชุดดูแล ผู้ป่วยไม่เกิดการติดเชื้อในตําแหน่งที่ใส่สายสวนหลอดเลือดดําส่วน ปลาย และไม่เกิดการติดเชื้อในกระแสเลือด การรั่วของสารน้ําออกนอกเลือดดําลดลงจาก 5.6 เป็น 0.8 ครั้งต่อ 100 ตําแหน่งคาสายสวน (p <0.001) และการอักเสบของหลอดเลือดดําส่วนปลายลดลงจาก 0.6 เป็น 0.2 ครั้ง ต่อ 100 ตําแหน่งคาสายสวน (p =0.02) โดยที่พยาบาลมีการปฏิบัติตามชุดดูแลถูกต้องมากขึ้นจากร้อยละ 58.6 เป็นร็อยละ 77.3 (p <0.001) สรุปผลการศึกษา จากผลลัพธ์ที่ได้ การใช้ชุดการดูแลทําให้ลดภาวะแทรกซ้อนจากการใส่สายสวนหลอดเลือด ส่วนปลายในผู้ป่วยเด็กและผู้ป่วยทารกได้ ดังนั้นควรส่งเสริมให้พยาบาลมีการปฏิบัติตามชุดการดูแลอย่าง สม่ําเสมอ เพื่อความยั่งยืนในทางปฏิบัติและให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในการให้การพยาบาล