Please use this identifier to cite or link to this item: http://cmuir.cmu.ac.th/jspui/handle/6653943832/64259
Title: ผลของการส่งเสริมการจัดการตนเองโดยการเข้าร่วมในค่ายเบาหวานต่อพฤติกรรม การควบคมุระดบัน้ำตาลในเลอืดและระดับโฮโมโกลบนิเอวันซขีองผู้ที่เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2
Other Titles: Effects of Self-management Promotion Through Diabetic Camp Participation on Glycemic Control Behaviors and Hemoglobin A1C Level Among Persons with Type 2 Diabetes
Authors: สิริพร นาโถ
ทวีลักษณ์ วรรณฤทธิ์
มยุลี สำาราญญาติ
Authors: สิริพร นาโถ
ทวีลักษณ์ วรรณฤทธิ์
มยุลี สำาราญญาติ
Issue Date: 2016
Publisher: คณะพยาบาลศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
Abstract: เบาหวานเป็นโรคเรื้อรังที่รักษาไม่หายขาด ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานควรมีการปฏิบัติพฤติกรรมการควบคุม ระดับน้ำตาลในเลือดที่เหมาะสมและต่อเนื่อง เพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและลดภาวะแทรกซ้อนจากโรค เบาหวาน การวิจัยกึ่งทดลองครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของการส่งเสริมการจัดการตนเองโดยการเข้า ร่วมในค่ายเบาหวานต่อพฤติกรรมการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและระดับฮีโมโกลบินเอวันซีของผู้ที่เป็น โรคเบาหวานชนิดที่2กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ที่เป็นโรคเบาหวานชนิดที่2 ที่มารับการรักษาที่คลินิกเบาหวาน แผนก ผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลกบินทร์บุรีตั้งแต่เดือนมีนาคม พ.ศ. 2556 ถึงเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2556 จำนวน 52 ราย ทำการสุ่มอย่างง่ายเป็นกลุ่มควบคุมและกลุ่มทดลอง กลุ่มละ 26 ราย กลุ่มทดลองได้รับการส่งเสริม การจัดการตนเองโดยการเข้าร่วมในค่ายเบาหวาน กลุ่มควบคุมได้รับการพยาบาลตามปกติเครื่องมือที่ใช้ดำเนิน การวิจัยครั้งนี้ประกอบด้วย 1) แผนกิจกรรมการส่งเสริมการจัดการตนเองในค่ายเบาหวาน 2) คู่มือสำหรับ ผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน และ3) แบบบันทึกการปฏิบัติของตนเอง เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูลประกอบด้วย 1) แบบบันทึกข้อมูลส่วนบุคคล 2) แบบบันทึก ระดับฮีโมโกลบินเอวันซี3)แบบสอบถามพฤติกรรมการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน และ 4) เครื่องเอยู400 ที่ใช้ตรวจระดับฮีโมโกลบินเอวันซีวิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติทดสอบค่าทีชนิด 2 กลุ่ม ที่ไม่เป็นอิสระต่อกัน และสถิติทดสอบค่าทีชนิด 2 กลุ่มที่เป็นอิสระต่อกัน ผลการวิจัยพบว่า 1. พฤติกรรมการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ที่เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2ในกลุ่มที่ได้รับการส่ง เสริมการจัดการตนเองโดยการเข้าร่วมในค่ายเบาหวานดีกว่ากลุ่มที่ได้รับการพยาบาลตามปกติอย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติ(p< .001) 2. พฤติกรรมการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ที่เป็นโรคเบาหวานชนิดที่2 ในกลุ่มที่ได้รับการส่ง เสริมการจัดการตนเองโดยการเข้าร่วมในค่ายเบาหวานภายหลังการทดลองดีกว่าก่อนทดลองอย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติ(p < .001) 3. ระดับฮีโมโกลบินเอวันซีของผู้ที่เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ในกลุ่มที่ได้รับการส่งเสริมการจัดการ ตนเองโดยการเข้าร่วมในค่ายเบาหวานต่ำกว่ากลุ่มที่ได้รับการพยาบาลตามปกติอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < .05) 4. ระดับฮีโมโกลบินเอวันซีของผู้ที่เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ในกลุ่มที่ได้รับการส่งเสริมการจัดการ ตนเองโดยการเข้าร่วมในค่ายเบาหวานภายหลังการทดลองต่ำกว่าก่อนทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < .001) ผลการศึกษาครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าการส่งเสริมการจัดการตนเองโดยการเข้าร่วมในค่ายเบาหวานทำให้ ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 มีพฤติกรรมการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดดีขึ้นและมีระดับฮีโมโกลบินเอวัน ซีลดลง จึงเสนอแนะให้มีการนำไปใช้เพื่อพัฒนาคุณภาพในการดูแลประชากรกลุ่มดังกล่าวต่อไป
Description: วารสารพยาบาลเป็นวารสารทางวิชาการที่เผยแพร่ความรู้ทางการพยาบาลและการผดุงครรภ์ รวมทั้งความรู้ใหม่ในวงการสุขภาพที่เกี่ยวข้องและเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็น และ ประสบการณ์เกี่ยวกับวิชาชีพการพยาบาลอีกทั้งเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้ร่วมวิชาชีพและภาพลักษณ์ของวิชาชีพการพยาบาล จัดทำโดย สมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ กำหนดออกปีละ 4 ฉบับ
URI: https://www.tci-thaijo.org/index.php/cmunursing/article/view/77531/62189
http://cmuir.cmu.ac.th/jspui/handle/6653943832/64259
ISSN: 0125-0081
Appears in Collections:CMUL: Journal Articles

Files in This Item:
There are no files associated with this item.


Items in CMUIR are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.