Please use this identifier to cite or link to this item:
http://cmuir.cmu.ac.th/jspui/handle/6653943832/39645
Full metadata record
DC Field | Value | Language |
---|---|---|
dc.contributor.advisor | รองศาสตราจารย์ ดร. ชูชีพ พุทธประเสริฐ | - |
dc.contributor.advisor | อาจารย์ ดร. ยงยุทธ ยะบุญธง | - |
dc.contributor.author | แววดาว บุญตา | en_US |
dc.date.accessioned | 2016-11-08T09:14:38Z | - |
dc.date.available | 2016-11-08T09:14:38Z | - |
dc.date.issued | 2015-08 | - |
dc.identifier.uri | http://repository.cmu.ac.th/handle/6653943832/39645 | - |
dc.description.abstract | The objectives of this Independent Study research were 1) to study the problems of conducting the classroom action research and the need for supporting the teachers to conduct the classroom action research of Payap Technological and Business College, Chiang Mai Province 2) to suggest the guidelines for supporting the teachers to conduct the classroom action research at Payap Technological and Business College, Chiang Mai. There were three processes on this study. The first process was to study the problems of classroom action research and the need for classroom action research development of the teachers at Payap Technological and Business College Chiang Mai Province. The population of the study was the teachers of Payap Technological and Business College, Chiang Mai Province. The tool used in the study was the questionnaire. The data analysis was performed by using mean and standard deviation. The second process was to study and draft the guidelines for promoting the classroom action research of the teachers at Payap Technological and Business College, Chiang Mai Province. The population were the Head of Departments, the administrators or the teachers who work for the three vocational colleges in Chiang Mai where had been assessed at the Good Level for the second and the third session of the External Quality Assessment on the classroom action research. The tool used in the study was the questionnaire. The inductive approach used for analyzing the data. The third process was to check the guidelines for supporting the professional classroom action research of the teachers at Payap Technological and Business College, Chiang Mai Province. The population were specifically the experts on the classroom action research including two college directors and three specialist teachers or upwards. The tool used in the study was the efficiency checklist for examining the accuracy, appropriateness and feasibility of the created guidelines. The data was analyzed by using mean and standard deviation. The result of the study on the problems of conducting the classroom action research showed that the three process of the study were evaluated at the highest level. The three suggested guidelines of the need for supporting the teachers to conduct the classroom research action at Payap Technological and Business College were evaluated at the high level. The feasible guidelines for supporting the teachers to conduct the classroom action research of Payap Technological and Business College, Chiang Mai Province concerning with the objective awareness of classroom action research were described as following; Teachers should be strongly supported to attend educational training and educational excursions in order to acquire knowledge and gain more experience about conducting classroom action research, teachers should be able to co-plan the obvious goals of conducting the classroom action research with the organization before starting the actual task, and teachers should know how to conduct the classroom action research wholly in every single step including the full form of research which totally contains five chapters. The feasible guidelines concerning with the resources were described as following; the information technology sources should be particularly provided for teachers such as the high-speed internet, the study corner desks and other necessary facilities including accessible data-base system. The feasible guidelines concerning with the self-motivation techniques were described as following; teachers should be motivated properly such as receiving good compliments, praising words or rewarded for the well-done research. Research funding, sponsorship and the forum for presenting research works must be provided continuously. The result of the verification, the appropriateness and the feasibility of the guidelines for supporting the teachers to conduct the classroom action research of Payap Technological and Business College, Chiang Mai Province was at the highest level. | en_US |
dc.language.iso | th | en_US |
dc.publisher | เชียงใหม่ : บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ | en_US |
dc.title | แนวทางการส่งเสริมการทำวิจัยในชั้นเรียนของครู วิทยาลัยเทคโนโลยีพายัพและบริหารธุรกิจ จังหวัดเชียงใหม่ | en_US |
dc.title.alternative | Guidelines for Supporting Teachers to Conduct Classroom Action Research of Payap Technological and Business College, Chiang Mai Province | en_US |
dc.type | Independent Study (IS) | |
thesis.degree | master | en_US |
thesis.description.thaiAbstract | การค้นคว้าแบบอิสระนี้ มีวัตถุประสงค์ 2 ข้อ คือ 1) เพื่อศึกษาปัญหาการทำวิจัยในชั้นเรียนและความต้องการรับการส่งเสริมการทำวิจัยในชั้นเรียนของครู วิทยาลัยเทคโนโลยีพายัพและบริหารธุรกิจ จังหวัดเชียงใหม่ 2) เพื่อเสนอแนวทางการส่งเสริมการทำวิจัยในชั้นเรียนของครู วิทยาลัยเทคโนโลยีพายัพและบริหารธุรกิจ จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีขั้นตอนการศึกษา 3 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 การศึกษาปัญหาการทำวิจัยในชั้นเรียนและความต้องการรับการส่งเสริมการทำวิจัยในชั้นเรียนของครู วิทยาลัยเทคโนโลยีพายัพและบริหารธุรกิจ จังหวัดเชียงใหม่ ประชากร คือ ครูวิทยาลัยเทคโนโลยีพายัพและบริหารธุรกิจ จังหวัดเชียงใหม่ เครื่องมือที่ใช้ คือ แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลี่ยและ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ขั้นตอนที่ 2 การศึกษาและร่างแนวทางการส่งเสริมการทำวิจัยในชั้นเรียนของครู วิทยาลัยเทคโนโลยีพายัพและบริหารธุรกิจ จังหวัดเชียงใหม่ ประชากร คือ ผู้บริหารสถานศึกษา หัวหน้าแผนก หัวหน้าส่วนงานหรือครูในสถานศึกษาระดับอาชีวศึกษาในจังหวัดเชียงใหม่ที่สถานศึกษามีผลการประเมินคุณภาพภายนอกรอบที่สองและรอบที่สามด้านการทำวิจัยในชั้นเรียนอยู่ในระดับดี ขึ้นไป จำนวน 3 วิทยาลัย เครื่องมือเป็นแบบสัมภาษณ์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการสรุปแบบอุปนัย และขั้นตอนที่ 3 การตรวจสอบร่างแนวทางการส่งเสริมการทำวิจัยในชั้นเรียนของครู วิทยาลัยเทคโนโลยีพายัพและบริหารธุรกิจ จังหวัดเชียงใหม่ ประชากร คือ ผู้เชี่ยวชาญด้านการทำวิจัยชั้นเรียนซึ่งเป็นผู้อำนวยการสถานศึกษา จำนวน 2 คน และครูชำนาญการพิเศษขึ้นไป จำนวน 3 คน เครื่องมือเป็นแบบตรวจสอบความถูกต้อง ความเหมาะสม และความเป็นไปได้ ของแนวทางที่สร้างขึ้น วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการศึกษาปัญหาการทำวิจัยในชั้นเรียนและความต้องการรับการส่งเสริมการทำวิจัยใน ชั้นเรียนของครู วิทยาลัยเทคโนโลยีพายัพและบริหารธุรกิจ จังหวัดเชียงใหม่ ปัญหาการทำวิจัยใน ชั้นเรียนของครู วิทยาลัยเทคโนโลยีพายัพและบริหารธุรกิจ จังหวัดเชียงใหม่ ทั้ง 4 ขั้นตอน พบว่า อยู่ในระดับมากทุกขั้นตอน ส่วนความต้องการรับการส่งเสริมการทำวิจัยในชั้นเรียนของครูวิทยาลัยเทคโนโลยีพายัพและบริหารธุรกิจ จังหวัดเชียงใหม่ ทั้ง 3 ด้านพบว่า อยู่ในระดับมากทั้ง 3 ด้าน แนวทางการส่งเสริมการทำวิจัยในชั้นเรียนของครู วิทยาลัยเทคโนโลยีพายัพและบริหารธุรกิจ จังหวัดเชียงใหม่ ด้านความรู้ ความเข้าใจควรมีการส่งเสริมให้ครูเข้ารับการอบรมและศึกษาดูงาน นอกสถานที่เพื่อเพิ่มพูนความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับการทำวิจัยในชั้นเรียน กำหนดจุดมุ่งหมายขององค์กรร่วมกันกับครูให้ชัดเจนก่อนเริ่มทำงานวิจัยในชั้นเรียน ส่งเสริมให้ครูมีความรู้ ความเข้าใจกระบวนการทำวิจัยในชั้นเรียน รูปแบบในการเขียนรายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ให้เป็นทิศทางเดียวกัน และมีองค์ประกอบครบทั้ง 5 บท ด้านทรัพยากร ควรมีการจัดเตรียมระบบอินเตอร์เน็ตที่มีความเร็วเหมาะสมไว้ให้บริการสำหรับครู จัดมุมหรือห้องสำหรับการค้นคว้าข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับงานวิจัย ในชั้นเรียนโดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็นและมีการจัดเก็บระบบฐานข้อมูลที่สามารถเข้าถึง ได้ง่ายที่สุด ด้านแรงจูงใจ ควรมีการยกย่อง ชมเชย ให้การยอมรับนับถือ ให้รางวัลแก่ครูผู้ทำวิจัย ในชั้นเรียนอย่างจริงจังและสม่ำเสมอ จัดงบประมาณ แหล่งเงินทุนสนับสนุนจากภายนอกและจัดให้ มีเวทีนำเสนอเผยแพร่ผลงานวิจัยในชั้นเรียนในระดับต่าง ๆ ผลการตรวจสอบความถูกต้อง ความเหมาะสม และความเป็นไปได้ของแนวทางการส่งเสริม การทำวิจัยในชั้นเรียนของครู วิทยาลัยเทคโนโลยีพายัพและบริหารธุรกิจ จังหวัดเชียงใหม่ พบว่าโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด | en_US |
Appears in Collections: | EDU: Independent Study (IS) |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
ABSTRACT.docx | Abstract (words) | 181.87 kB | Microsoft Word XML | View/Open |
ABSTRACT.pdf | Abstract | 333.74 kB | Adobe PDF | View/Open Request a copy |
FULL.pdf | Full IS | 4.43 MB | Adobe PDF | View/Open Request a copy |
Items in CMUIR are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.