Please use this identifier to cite or link to this item:
http://cmuir.cmu.ac.th/jspui/handle/6653943832/39832
Full metadata record
DC Field | Value | Language |
---|---|---|
dc.contributor.advisor | ปิติมา ดิศกุลเนติวิทย์ | - |
dc.contributor.author | นงลักษณ์ ธราวรรณ | en_US |
dc.date.accessioned | 2016-12-12T14:57:56Z | - |
dc.date.available | 2016-12-12T14:57:56Z | - |
dc.date.issued | 2557 | - |
dc.identifier.uri | http://repository.cmu.ac.th/handle/6653943832/39832 | - |
dc.description.abstract | This independent study aimed at studying the opinion of accountants in Chiang Mai towards factors affecting ethics in 5 accounting profession practice; organizational culture, work values, personal ethics, work satisfaction, and ethics. Data were collected by using questionnaires with 314 accountants who registered with Department of Business Development, Chiang Mai. The statistical analyses used were frequency, percentage, and deviation. Results of the study showed that most of the questionnaires respondents were female age between 31-40 years old, Bachelor’s degree, with a monthly salary between 10,000 and 20,000 baht, with less than 5 years of work experience in accounting. Most of them were in juristic businesses in the positions of accountants. They managed accounting by using computer programs. Majority of them also used to study ethics or passed ethics training before. In terms of organizational culture, questionnaire respondents who were classified according to ages and work experiences agreed at the highest level about protecting the organization reputation. For questionnaires respondents who were classified by education or ethics training, they agreed to protect the organization reputation at a high level. In terms of work values, questionnaire respondents who were classified according to ages, work experiences, and ethics training agreed at the highest level that accounting management help in business planning and decision making. In terms of personal ethics, questionnaire respondents who were classified according to ages and work experiences agreed at the high level that the harmony and cooperation at work make successful business. They were also concerned with common interests more than self-interest. For questionnaires respondents who were classified by education or ethics training, they agreed at high level about honesty, plausibility, and fairness on conducting business. In terms of work satisfaction, questionnaire respondents who were classified according to ages and work experiences agreed at the high level about good understandings toward characteristics of their jobs. For questionnaires respondents who were classified by education or ethics training, they agreed at high level that working in the organization gives them opportunities to improve their knowledge and skills. In terms of ethics, questionnaire respondents agreed at the lowest level about editing numbers in financial budget for bank loan approval. | en_US |
dc.language.iso | th | en_US |
dc.publisher | เชียงใหม่ : บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ | en_US |
dc.subject | ผู้ทำบัญชี | en_US |
dc.subject | จริยธรรมในการปฏิบัติงาน | en_US |
dc.subject | วิชาชีพบัญชี | en_US |
dc.title | ความคิดเห็นของผู้ทำบัญชีในจังหวัดเชียงใหม่ต่อจริยธรรมในการปฏิบัติงานวิชาชีพบัญชี | en_US |
dc.title.alternative | Opinion of accountants in Chiang Mai Province towards ethics in accounting profession practices | en_US |
dc.type | Independent Study (IS) | |
thailis.classification.ddc | 657.092 | - |
thailis.controlvocab.thash | นักบัญชี -- ทัศนคติ | - |
thailis.controlvocab.thash | การบัญชี | - |
thailis.controlvocab.thash | ผู้ประกอบวิชาชีพ | - |
thailis.controlvocab.thash | จริยธรรมในการทำงาน | - |
thailis.manuscript.callnumber | ว/ภน 657.092 น127ค | - |
thesis.degree | master | en_US |
thesis.description.thaiAbstract | การค้นคว้าแบบอิสระมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความคิดเห็นของผู้ทำบัญชีในจังหวัดเชียงใหม่ต่อปัจจัยที่ส่งผลต่อจริยธรรมในการปฏิบัติงานวิชาชีพบัญชี 5 ด้าน ได้แก่ วัฒนธรรมองค์กร ค่านิยมในการทำงาน จริยธรรมส่วนบุคคล ความพึงพอใจในการทำงาน และ จรรยาบรรณวิชาชีพ โดยรวบรวมข้อมูลจากผู้ทำบัญชีที่ขึ้นทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัดเชียงใหม่จำนวน 314 ราย จากแบบสอบถาม การวิเคราะห์ผลทางสถิติใช้ค่าความถี่ ค่าร้อยละ และค่าเฉลี่ย จากผลการศึกษาพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีอายุระหว่าง31-40 ปี จบการศึกษาอยู่ในระดับปริญญาตรีมีรายได้ต่อเดือนจำนวน 10,000-20,000 บาท มีประสบการณ์การทำงานในสาขาวิชาชีพการทำบัญชี น้อยกว่า 5 ปีในประเภทของธุรกิจส่วนใหญ่อยู่ในธุรกิจนิติบุคคล โดยมีตำแหน่งงานเป็นผู้ทำบัญชี มีวิธีการจัดทำบัญชีโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปและผู้ทำบัญชีในจังหวัดเชียงใหม่ส่วนใหญ่เคยศึกษาวิชาจริยธรรมหรือเคยผ่านการอบรมด้านจริยธรรมมาก่อน ด้านวัฒนธรรมองค์กร กลุ่มผู้ตอบแบบสอบถามที่จำแนกตามอายุ ตามประสบการณ์การทำงานเป็นผู้ทำบัญชี ส่วนใหญ่เห็นด้วยในระดับมากที่สุด ต่อการปกป้องชื่อเสียงขององค์กร สำหรับกลุ่มผู้ตอบแบบสอบถามที่จำแนกตามการศึกษาหรืออบรมวิชาจริยธรรม เห็นด้วยในระดับมากต่อการปกป้องชื่อเสียงขององค์กร ด้านค่านิยมในการทำงาน กลุ่มผู้ตอบแบบสอบถามที่จำแนกตามอายุ ตามประสบการณ์การทำงานเป็นผู้ทำบัญชี และผ่านการศึกษาหรืออบรมวิชาจริยธรรม ส่วนใหญ่เห็นด้วยในระดับมาก ต่อการทำบัญชีจะช่วยในการวางแผนและตัดสินใจของการดำเนินธุรกิจ ด้านจริยธรรมส่วนบุคคล กลุ่มผู้ตอบแบบสอบถามที่จำแนกตามอายุ ประสบการณ์การทำงานเป็นผู้ทำบัญชี ส่วนใหญ่เห็นด้วยในระดับมาก ต่อความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน มีความพร้อมเพรียงร่วมมือกันกระทำงานของกิจการให้สำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตัวมากที่สุด สำหรับกลุ่มผู้ตอบแบบสอบถามที่จำแนกตามการศึกษาหรืออบรมวิชาจริยธรรม เห็นด้วยในระดับมาก ต่อการปฏิบัติด้วยความเที่ยงตรง สอดคล้องกับความเป็นจริงและเหตุผล ไม่มีความลำเอียง ด้านความพึงพอใจในการทำงาน กลุ่มผู้ตอบแบบสอบถามที่จำแนกตามตามอายุ ประสบการณ์การทำงานเป็นผู้ทำบัญชี ส่วนใหญ่เห็นด้วยในระดับมาก ต่อความเข้าใจในลักษณะงานที่ทำอยู่เป็นอย่างดี สำหรับกลุ่มผู้ตอบแบบสอบถามที่จำแนกตามการศึกษาหรืออบรมวิชาจริยธรรม เห็นด้วยในระดับมาก ต่อการทำงานในองค์กรจะทำให้มีโอกาสได้ พัฒนาความรู้เพิ่มมากขึ้น ด้านจรรยาบรรณวิชาชีพ ผู้ตอบแบบสอบถามเห็นด้วยในระดับน้อยที่สุดในเรื่องการแก้ไขตัวเลขในงบการเงินเพื่อขออนุมัติสินเชื่อทางธนาคาร | en_US |
Appears in Collections: | BA: Independent Study (IS) |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
ABSTRACT.pdf | ABSTRACT | 162.72 kB | Adobe PDF | View/Open |
APPENDIX.pdf | APPENDIX | 251.75 kB | Adobe PDF | View/Open |
CHAPTER 1.pdf | CHAPTER 1 | 245.03 kB | Adobe PDF | View/Open |
CHAPTER 2.pdf | CHAPTER 2 | 227.29 kB | Adobe PDF | View/Open |
CHAPTER 3.pdf | CHAPTER 3 | 290.45 kB | Adobe PDF | View/Open |
CHAPTER 4.pdf | CHAPTER 4 | 719.5 kB | Adobe PDF | View/Open |
CHAPTER 5.pdf | CHAPTER 5 | 207.24 kB | Adobe PDF | View/Open |
CONTENT.pdf | CONTENT | 249.88 kB | Adobe PDF | View/Open |
COVER.pdf | COVER | 585.36 kB | Adobe PDF | View/Open |
REFERENCE.pdf | REFERENCE | 205.83 kB | Adobe PDF | View/Open |
Items in CMUIR are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.