ปัจจัยจูงใจในการทำงานของผู้แทนยาในภาคเหนือ

Abstract

การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาศึกษาปัจจัยจูงใจในการทำงานของผู้แทนยาในภาคเหนือ การศึกษาได้ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลจากผู้แทนยาซึ่งทำงานในบริษัทเอกชน และมีเขตรับผิดชอบในพื้นที่ภาคเหนือ 17 จังหวัด จำนวน 200 คน โดยใช้แบบสอบถาม และทำการประมวลผลและวิเคราะห์ข้อมูลตามวัตถุประสงค์ โดยใช้สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ค่าความถี่ ร้อยละ และค่าเฉลี่ย และสถิติอ้างอิง ได้แก่ การทดสอบความแตกต่างค่าเฉลี่ยของสองกลุ่มประชากร (T-Test) และ การทดสอบความแตกต่างค่าเฉลี่ยมากกว่าสองกลุ่มประชากร (One-way ANOVA) ซึ่งสามารถสรุปผลได้ดังนี้ จากการศึกษาพบว่าผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ เป็นเพศหญิง อายุ 31-35 ปี มีสถานภาพโสด วุฒิการศึกษาอยู่ในระดับปริญญาตรี มีอายุงานทั้งหมดในสายงานผู้แทนยา 1 - 4 ปี เคยทำงานในบริษัทยามาทั้งหมด 3 แห่ง มีอายุงานในบริษัทที่ทำงานอยู่ในปัจจุบัน 1 - 4 ปี เงินเดือนในปัจจุบันเท่ากับ 10,000-20,000 บาท และมีรายได้ทั้งหมดต่อเดือน 40,000-60,000 บาท โดยผู้ตอบแบบสอบถามทำงานในบริษัทยาต้นแบบ คิดเป็นร้อยละ 50.0 และทำงานในบริษัทยาสามัญคิดเป็นร้อยละ 50.0 เช่นกัน ระดับความพึงพอใจต่อปัจจัยบำรุงรักษาจิตใจผู้ตอบแบบสอบถามให้คะแนนโดยรวมอยู่ในระดับ”ความพอใจมาก” ซึ่งในรายละเอียดแต่ละประเด็นของปัจจัยด้านนี้มีค่าเฉลี่ยมากในด้านความมั่นคงในการทำงาน ด้านความสัมพันธ์ส่วนตัวกับผู้บังคับบัญชา ผู้ใต้บังคับบัญชา และเพื่อนร่วมงาน ด้านนโยบายและการบริหารของหน่วยงาน และด้านค่าตอบแทน และมีค่าเฉลี่ยปานกลางในด้านสภาพการทำงาน ด้านความเป็นอยู่ส่วนตัว และด้านสวัสดิการ ระดับการจูงใจต่อปัจจัยจูงใจที่เป็นตัวกระตุ้นในการทำงานรวมผู้ตอบแบบสอบถามให้คะแนนอยู่ในระดับ”การจูงใจมาก” ซึ่งในรายละเอียดแต่ละประเด็นของปัจจัยด้านนี้ มีค่าเฉลี่ยมากในทุกประเด็น เรียงตามลำดับ คือ ด้านการได้รับการยอมรับนับถือ ด้านลักษณะงานที่ปฏิบัติ ด้านความสำเร็จของงาน ด้านความรับผิดชอบ และด้านความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน