Please use this identifier to cite or link to this item: http://cmuir.cmu.ac.th/jspui/handle/6653943832/79940
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.advisorสุบัน พรเวียง-
dc.contributor.advisorนันท์นภัส แสงฮอง-
dc.contributor.authorOrawan Pawannaen_US
dc.date.accessioned2024-08-05T11:35:30Z-
dc.date.available2024-08-05T11:35:30Z-
dc.date.issued2024-05-
dc.identifier.urihttp://cmuir.cmu.ac.th/jspui/handle/6653943832/79940-
dc.description.abstractThis independent study had three purposes ; First Objective to examine the conditions and needs in educational management for the Career of Migrant Workers' Children. Second, in order to provide educational management guidelines for the career of migrant workers' children. And last to verify the educational management guidelines for career of migrant workers' children within Schools in Hang Dong district, Chiang Mai Province. There were three steps; to examine conditions and needs in educational management for Career of Migrant Workers' Children. The population in study case were school principals and teachers in Hang Dong District with more than 70% of students being descendants of migrant workers, totaling 104 individuals. The equipment in the study case was a questionnaire. Second step, provided educational management guidelines for career preparation of migrant workers' children. Fifteen key informants who were selected. The equipment used in the study was focus group interview recordings. The last step, inspect the efficacy of educational management guidelines for career of migrant workers' children within Schools in Hang Dong district ,Chiang Mai Province. The target group comprised 40 individuals, including administrators, teacher representatives, school committee representatives, and qualified individuals. The quipment used in the study was guidelines assessment form. Data analysis involves using percentages, averages, standard deviations, and content analysis. The study on the conditions and needs for vocational education management for the children of migrant workers found that the overall condition is at a high level. The most practiced aspect is teaching management. As for the needs in vocational education management for these students, the overall need is also at a high level, with the highest need being in curriculum development. Educational Management Guidelines for the Career of Migrant Workers' Children within Primary Schools in Hang Dong District ,Chiang Mai Province approached 1)teaching and learning should focus on developing skills necessary for life and work in the current 2)the curriculum should be adjusted to the context of each school and meet the needs of students and the community 3)Parents and the community should be given opportunities to participate in curriculum development and monitoring 4)Students should be given opportunities to practice in real-world settings 5)The current conditions and context of students and schools should be analyzed to inform the design of assessment methods and 6)shared vision, mission, and goals for the school should be developed with the participation of all stakeholders. The result of the feasibility, the suitability, utility and validity of that Guidelines found the overall level of agreement on the validity, appropriateness, feasibility, and usefulness of the guidelines was high.en_US
dc.language.isootheren_US
dc.publisherเชียงใหม่ : บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่en_US
dc.titleแนวทางการจัดการศึกษาเพื่อการประกอบอาชีพของนักเรียน บุตรหลานแรงงานข้ามชาติ โรงเรียนประถมศึกษาในอำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่en_US
dc.title.alternativeEducational management guidelines for the career of migrant workers' children within primary schools in Hang Dong District Chiang Mai Provinceen_US
dc.typeIndependent Study (IS)
thailis.controlvocab.thashโรงเรียนประถมศึกษา -- หางดง (เชียงใหม่)-
thailis.controlvocab.thashการจ้างงานในต่างประเทศ-
thailis.controlvocab.thashการแนะแนวอาชีพ-
thailis.controlvocab.thashการแนะแนวการศึกษา-
thesis.degreemasteren_US
thesis.description.thaiAbstractการค้นคว้าอิสระ เรื่อง แนวทางการจัดการศึกษาเพื่อการประกอบอาชีพของนักเรียน บุตรหลานแรงงานข้ามชาติ โรงเรียนประถมศึกษาในอำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ มีวัตถุประสงค์เพื่อ1) ศึกษาสภาพและความต้องการของการจัดการศึกษาเพื่อการประกอบอาชีพของนักเรียน บุตรหลานแรงงานข้ามชาติฯ 2) ศึกษาแนวทางการจัดการศึกษาเพื่อการประกอบอาชีพของนักเรียนบุตรหลานแรงงานข้ามชาติและ 3)ตรวจสอบแนวทางการจัดการศึกษาเพื่อการประกอบอาชีพของนักเรียนบุตรหลานแรงงานข้ามชาติ ซึ่งมีขั้นตอนการศึกษา 3 ขั้นตอน คือ 1) การศึกษาสภาพและ ความต้องการของการจัดการศึกษาเพื่อการประกอบอาชีพของนักเรียนบุตรหลานแรงงานข้ามชาติ ประชากรที่ใช้ คือ ผู้บริหารและครูผู้สอนโรงเรียนในอำเภอหางดงที่มีนักเรียนบุตรหลานแรงงาน ข้ามชาติเข้ารับการศึกษาเกินร้อยละ 70 จำนวน 104 คน เครื่องมือที่ใช้ คือ แบบสอบถาม 2) การศึกษาแนวทางการจัดการศึกษาเพื่อการประกอบอาชีพของนักเรียนบุตรหลานแรงงานข้ามชาติฯ กลุ่มผู้ให้ข้อมูล คือ ผู้ทรงคุณวุฒิ ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง จำนวน 15 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา คือ แบบบันทึกสนทนากลุ่มย่อย และ3) การตรวจสอบแนวทางการจัดการศึกษาเพื่อการประกอบอาชีพของนักเรียนบุตรหลานแรงงานข้ามชาติฯ กลุ่มเป้าหมายที่ใช้คือ ผู้บริหาร ตัวแทนครูผู้สอน ตัวแทนคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและผู้ทรงคุณวุฒิ ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง จำนวน 40 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาคือ แบบตรวจสอบแนวทาง วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการศึกษาสภาพและความต้องการในทางการจัดการศึกษาเพื่อการประกอบอาชีพ ของนักเรียนบุตรหลานแรงงานข้ามชาติฯ พบว่าสภาพโดยรวมอยู่ในระดับมาก ด้านที่ปฏิบัติมากที่สุดคือด้านการจัดการเรียนการสอน ส่วนความต้องการในการจัดการศึกษาเพื่อการประกอบอาชีพ ของนักเรียนบุตรหลานแรงงานข้ามชาติ ฯ โดยรวมอยู่ในระดับมาก ด้านที่มีความต้องการมากที่สุด คือด้านการพัฒนาหลักสูตร แนวทางการจัดการศึกษาเพื่อการประกอบอาชีพของนักเรียนบุตรหลานแรงงานข้ามชาติฯ คือ1) ควรจัดการเรียนการสอนที่มุ่งเน้นการพัฒนาทักษะที่จำเป็นและเหมาะสมกับวิถีชีวิต และการทำงานในยุคปัจจุบัน 2) ควรมีการปรับหลักสูตรสถานศึกษาให้ความเหมาะสมกับบริบทของสถานศึกษาและตอบสนองต่อความต้องการของผู้เรียนและชุมชน 3) ควรเปิดโอกาสให้ผู้ปกครองและชุมชนมีส่วนร่วมในการปรับปรุงหลักสูตรสถานศึกษาและกำกับ ติดตามการใช้หลักสูตรสถานศึกษาอย่างเหมาะสม 4) ควรสร้างโอกาสให้นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติจริงในแหล่งเรียนรู้หรือการจำลองกิจกรรม 5) ควรวิเคราะห์สภาพและบริบทปัจจุบันของนักเรียนและโรงเรียนเพื่อนำไปเป็นข้อมูล ในการออกแบบวิธีวัดและประเมินผล และ 6) ควรวางแผนร่วมกันเกี่ยวกับเป้าหมาย วิสัยทัศน์ พันธกิจของโรงเรียนโดยให้ผู้มีส่วนร่วมทุกฝ่ายมีส่วนร่วม สำหรับผลการตรวจสอบความถูกต้อง ความเหมาะสม ความเป็นไปได้และความเป็นประโยชน์ของแนวทางการจัดการศึกษาเพื่อการประกอบอาชีพของนักเรียนบุตรหลานแรงงาน ข้ามชาติฯ พบว่า โดยรวมอยู่ในระดับมากen_US
Appears in Collections:EDU: Independent Study (IS)

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
650232095 อรวรรณ ปาวัณณะ.pdf23.86 MBAdobe PDFView/Open    Request a copy


Items in CMUIR are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.