Please use this identifier to cite or link to this item: http://cmuir.cmu.ac.th/jspui/handle/6653943832/73889
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.advisorฐิติวุฒิ บุญยวงศ์วิวัชร-
dc.contributor.authorทศพร ขัติยะen_US
dc.date.accessioned2022-08-16T15:07:47Z-
dc.date.available2022-08-16T15:07:47Z-
dc.identifier.urihttp://cmuir.cmu.ac.th/jspui/handle/6653943832/73889-
dc.description.abstractThis research about Political Economy of Cockfight in the Relationship Between Elite Groups and Community: A Case Study of Mae Yoi Cockfight Stadium, San Sai Noi Sub District, San Sai District, Chiang Mai Province had 3 objectives: To study the relationship between the economic and political elite in class and power relations. Efiective in legal issues and control policies for cocklighting of the relevant authorities. To study the effects of the opening of a Mae You Cockfight Stadium and To study ways to support and strengthen the community economy as well as find ways to manage the community economy that makes the cocklighting seen as illegal and most of the benefit lies in the elite and the owners of the cocklighting stadium. This research was analyzed through the concept of political economic social networks, Elite concept and the concept of interest groups. The study was a qualitative research. Data were collected through semi- structured interviews with participatory observation. The study about relationship among elite, economy and politics found that the cocklight Stadium is a place to connect people who are interested and involved in cockfighting. In a small society with diverse social and economic classes. There is a long and continuous power relationship in the form of power relations through the patronage system with states, capital groups, politicians and local people. Relationships focus more on helping each other than rewarding things or other compensation. In exchange for being protected Including bargaining for economic, social and political interests The results of studies on the effects of cockfight have had a negative impact on the economic dimensions. Mae Yoi Cockfight Stadium is a legal gambling facility and a waste of wealth, leading to other problems. In the social dimension causing controversy. Loud noise and the smell of waste in the community. In terms of suitability and social control. Cockfighting is also popular, especially among men, as well as by community leaders who often bring their children in, which is a disadvantage because it is the absorption of gambling into children. In social and political dimensions, Cockfighting is involved to the government power. This is the exploitation between the capital group and the political power or the government power in the form of a patronage system. However, the cockfight Stadium generates economic benefits to the local people both directly from the business, creating income and occupations from chicken farming such as breeding cocklighting, trading in equipment and drugs for cockfighting, Including related income from cocklighting Indirect stores within the community and accommodation and services. Moreover, the Mae Yoi Cockfight Stadium also generates income for the government in the form of taxes for other purposes. In order to promote and strengthen the community economy through the cockfighting business, the government should revise regulations, laws in the area of supervision and authorization. It should be adjusted to be the duty of local authorities that have strong relations with local people. Cockfighting must have permission from the area as well. The government should have a policy to promote and create the added value of the cockfighting business to be legal and international. The cockfighting stadium should strictly adhere to the rules and regulations to ensure safety and not cause damage to the community. In addition, a business network should be integrated between the representative of the cocklighting field, the fighting arch, the cockfighting conservation group, government and private agencies in consultation, improvement, correction and development of cockfighting sport to have a sustainable international standard.en_US
dc.language.isootheren_US
dc.publisherเชียงใหม่ : บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่en_US
dc.titleเศรษฐกิจการเมืองของสนามไก่ชนในความสัมพันธ์ระหว่างชนชั้นนำและชุมชน กรณีศึกษา สนามกีฬาไก่ชนแม่ย่อย ตำบลสันทรายน้อย อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่en_US
dc.title.alternativePolitical economy of cockfight in the relationship between elite groups and community: a case study of Mae Yoi Cockfight Stadium, San Sai Noi Sub-district, San Sai District, Chiang Mai Provinceen_US
dc.typeIndependent Study (IS)
thailis.controlvocab.thashไก่ชน -- สันทราย (เชียงใหม่)-
thailis.controlvocab.thashการชนไก่-
thesis.degreemasteren_US
thesis.description.thaiAbstractการศึกษาวิจัย เศรษฐกิจการเมืองของสนามไก่ชนในความสัมพันธ์ระหว่างชนชั้นนำและ ชุมชน กรณีศึกษา สนามกีพาไก่ชนแม่ย่อย ตำบลสันทรายน้อย อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ มี วัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างชนชั้นนำทางเศรษฐกิจและการเมืองในการดำเนิน ธุรกิจบ่อนไก่ชนแม่ย่อย 2) เพื่อศึกษาผลกระทบจากการเปิดบ่อนการพนันไก่ชนแม่ย่อย 3) เพื่อศึกษา แนวทางในการสนับสนุนและเสริมสร้างเศรษฐกิจชุมชนของสนามชนไก่แม่ย่อย โดยวิเคราะห์ผ่าน แนวคิดเรื่องเครือข่ายสังคมเชิงเศรษฐศาสตร์การเมือง แนวคิดชนชั้นนำ และแนวคิดกลุ่มผลประโยชน์ เป็นกรอบในการวิเคราะห์หลัก โดยใช้วิธีการศึกยาทำการศึกษาวิจัยเชิงคุณภาพ เก็บรวบรวมข้อมูล ด้วยการสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้างร่วมกับการเข้าไปสังเกตการณ์แบบมีส่วนร่วม ผถการศึกษาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างชนชั้นนำทางเศรษฐกิจและการเมืองในการดำเนิน ธุรกิจบ่อนไก่ขนแม่ย่อย พบว่า สนามไก่ชนแม่ย่อยเป็นสถานที่ที่เชื่อมโยงบุคคลและกลุ่มคนต่างๆที่มี ความสนใจและมีความเกี่ยวข้องในกิจการชนไก่ เป็นสังคมขนาคเล็กที่มีความหลากหลายทางชนชั้น ทางเศรษฐกิจและสังคม มีการสร้างเครือข่ายและความสัมพันธ์เชิงอำนาจในพื้นที่มาอย่างยาวนานและ ต่อเนื่องในลักษณะของความสัมพันธ์เชิงอำนาจผ่านระบบอุปถัมภ์ กับรัฐ กลุ่มทุน นักการเมือง รวมทั้งประชาชนในพื้นที่ในรูปแบบของการสร้างเครือข่าย ติดต่อประสานงานร่วมกันในพื้นที่ ผ่าน การเจรจาต่อรองเพื่อแลกกับผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ ผลประโยชน์ทางสังคม และผลประโยชน์ ทางการเมืองซึ่งกันและกัน ผลการศึกษากี่ยวกับผลกระทบจากการเปิดบ่อนการพนันไก่ชน พบว่า การเปิดให้บริการ สนามไก่ชนแม่ย่อยก่อให้เกิดผลกระทบด้านลบในมิติทางเศรษฐกิจ โดยเป็นแหล่งในการเสียทรัพย์ และนำมาซึ่งปัญหาด้านอื่นๆ ในมิติสังคมก่อให้เกิดปัญหาการทะเลาะวิวาทจากการพนันและการ ควบคุมทางสังคมภายในชุมชน รวมทั้งปัญหาในด้านสิ่งแวดล้อมก่อให้เกิดเสียงดังและกลิ่นของเสีย ภายในพื้นที่ขุมขนในวงกว้าง ในมิติทางสังคมการเมือง การพนันไก่ชนรวมถึงการพนันชนิดอื่นๆ เกี่ยวข้องกับกลไกและการใช้อำนาจรัฐ ซึ่งเป็นช่องทางการแสวงหาผลประโยชน์ในรูปแบบต่างๆ หรือ ส่วย ในลักษณะของความสัมพันธ์ทางอำนาจระหว่างกลุ่มทุนกับผู้มีอำนาจทางการเมืองหรือ อำนาจรัฐในลักษณะของระบบอุปถัมภ์ อย่างไรก็ตามสนามชนไก่แม่ย่อยก็สร้างผลประโยชน์ทาง เศรษฐกิจ ทั้งทางตรงจากกิจการสนามชนไก่เป็นการสร้างรายได้และอาชีพจากการเลี้ยงไก่ และทาง ทางอ้อมเกิดร้านค้าร้านอาหาร ที่พักและบริการภายในชุมชน อีกทั้งสนามชนไก่เป็นรายได้ของรัฐใน รูปแบบของภาษีเพื่อใช้ประโยชน์ในด้านอื่นๆ แต่ผลประโชน์สูงสุดยืดโยงอยู่ใครงสร้างส่วนบน หรือกลุ่มชนชั้นนำเป็นหลัก ซึ่งประโยชน์ที่ประชาชนและชุมชนได้รับนั้นเป็นเพียงส่วนน้อยเพื่อให้ ธุรกิจสามารถดำเนินต่ออย่างราบรื่น ผลการศึกษาเกี่ยวกับการสนับสนุนและเสริมสร้างเศรษฐกิจชุมชนของสนามชนไก่แม่ย่อย พบว่า สนามชนไก่แม่ย่อยยังไม่มีการสนับสนุนทางค้ำนงบประมานและการฝึกอบรมพัฒนาอาชีพ ให้กับประชาชนหรือชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม ด้านการแลกเปลี่ยนซื้อขายไก่ชนและอุปกรณ์ชนไก่ยัง ไม่มีอาคารสถานที่หรือร้านค้าที่เปิดให้บริการโดยตรงสำหรับซื้อขายแลกเปลี่ยนไก่ สำหรับสนับสนุน การมีส่วนร่วมของชุมชนให้ความสำคัญต่อการมีส่วนร่วมของประชาชนพื้นที่ในลักษณะของการ ได้ผลประโยชน์ร่วมกันระหว่างชุมชนและสนามไก่ชนแม่ย่อย ส่วนแนวทางในการส่งเสริมและเสริมสร้างเศรษฐกิจชุมชนผ่านธุรกิจสนามชนไก่ รัฐควร ปรับปรุงแก้ไขข้อบังคับกฎหมายด้านการกำกับควบคุมและการให้อนุญาต จากเดิมการเล่นการพนัน ชนไก่โดยถูกกฎหมายภายใต้การควบคุมของส่วนกลางควรปรับเป็นหน้าที่ของหน่วยงานส่วนท้องถิ่น ที่มีความสัมพันธ์ต่อประชาชนในท้องที่อย่างแนบแน่นและสนามไก่ชนก็ต้องได้รับอนุญาตจากพื้นที่ ด้วย และรัฐควรมีนโยบายในการส่งเสริมการและการสร้างมูลค่าเพิ่มของธุรกิจไก่ชน ให้การชนไก่ เป็นธุรกิจที่ถูกกฎหมายและเป็นสากล ทั้งนี้สนามชนไก่ก็ควรปฏิบัติดามกฎระเบียบข้อบังคับอย่าง เคร่งครัดเพื่อให้เกิดความปลอดภัยและไม่สร้างความเสียหายให้ต่อผู้ใช้บริการและประชาชนภายใน ชุมชน และควรมีการรวมเครือข่ายทางธุรกิจร่วมกันระหว่างตัวแทนสนามชนไก่ ซุ้มไก่ชน กลุ่ม อนุรักษ์พันธ์ไก่ชน หน่วยงานภาครัฐและเอกชน มีส่วนร่วมกันในการปรึกษาหารือปรับปรุงแก้ไขและ พัฒนากีฬาชนไก่ให้มีมาตรฐานและเป็นสากลอย่างยั่งยืนen_US
Appears in Collections:POL: Independent Study (IS)

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
611932029 ทศพร ขัติยะ.pdf6.72 MBAdobe PDFView/Open    Request a copy


Items in CMUIR are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.