Please use this identifier to cite or link to this item: http://cmuir.cmu.ac.th/jspui/handle/6653943832/69590
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.advisorผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กุลวดี อภิชาติบุตร-
dc.contributor.advisorผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.บุญพิชชา จิตต์ภักดี-
dc.contributor.authorพัชรินทร์ เขตประทุมen_US
dc.date.accessioned2020-08-15T03:04:39Z-
dc.date.available2020-08-15T03:04:39Z-
dc.date.issued2020-03-
dc.identifier.urihttp://cmuir.cmu.ac.th/jspui/handle/6653943832/69590-
dc.description.abstractWork-family conflict affects nurses’ work efficiency and organizational performance. The purpose of this study was to examine the overall level of work-family conflict, the level of workfamily conflict classified by gender, age, marital status, number of children, household helpers, and working departments, and to explore methods for reducing work-family conflicts of nurses in Thoen Hospital, Lampang Province. The study population was 62 nurses with at least one-year working experience. The instrument used in this study was the Multi-dimensional Measure of Work-family Conflict (Carlson, Kacmar, & Williams, 2000), translated into Thai by the researcher. The Cronbach's alpha coefficient was 0.97. The data was analyzed by using parameters. The study revealed that: 1. Nurses in the Thoen Hospital had work-family conflicts regarding time-based work interference with family and strain-based work interference with family at moderate levels (μ = 3.27, σ = 0.91; μ = 2.57, σ = 0.92, respectively), and regarding behavior-based work interference with family at a low level (μ = 2.23, σ = 0.86). The conflicts between work and family regarding time-based family interference with work, strain-based family interference with work, and behavior-based family interference with work were at low levels (μ = 2.31, σ = 0.65; μ = 1.83, σ = 0.78; μ = 2.08, σ = 0.79 respectively). 2. Nurses who had different genders, ages, and working departments had different levels of work - family conflicts regarding time-based work interference with family. Nurses who had different ages, numbers of children, and working departments had different levels of work-family conflicts regarding strain-based work interference with family. Nurses who had different ages, marital statuses, numbers of children, and working departments had different levels of work-family conflicts regarding behavior-based work interference with family. Nurses who had different working departments had different levels of work-family conflicts regarding time-based family interference with work. Nurses who had different marital statuses had different levels of work-family conflicts regarding strain-based family interference with work. Nurses who had different ages and working departments had different levels of work-family conflicts regarding behavior-based family interference with work. 3. Methods for reducing work-family conflicts were: reducing the workload of nurses, increasing the work-related happiness of working of nurses, and educating nurse to improve skills for dealing with work-family conflicts. The results of this study can be used by Nurse Administrators to prevent and manage conflicts between work and family in order to improve nurses’s quality of life and work effectiveness.en_US
dc.language.isootheren_US
dc.publisherเชียงใหม่ : บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่en_US
dc.titleความขัดแย้งระหว่างงานกับครอบครัวของพยาบาลในโรงพยาบาลเถิน จังหวัดลำปางen_US
dc.title.alternativeWork-family Conflict of Nurses in Thoen Hospital, Lampang Provinceen_US
dc.typeIndependent Study (IS)
thesis.degreemasteren_US
thesis.description.thaiAbstractความขัดแย้งระหว่างงานกับครอบครัวมีผลต่อประสิทธิภาพการทํางานของพยาบาลและผลการ ปฏิบัติงานขององค์การ การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับความขัดแย้งระหว่างงานกับ ครอบครัวของพยาบาลโดยรวม ระดับความขัดแย้งระหว่างงานกับครอบครัวจําแนกตาม เพศ อายุ สถานภาพสมรส จํานวนบุตร ผู้ช่วยเหลือในครัวเรือนและแผนกที่ปฏิบัติงาน และศึกษาแนวทางการ ลดความขัดแย้งระหว่างงานกับครอบครัวของพยาบาลในโรงพยาบาลเถิน จังหวัดลําปาง ประชากรที่ ศึกษาเป็นพยาบาลที่ปฏิบัติงานตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไปจํานวน 62 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาคือแบบวัด ความขัดแย้งระหว่างงานกับครอบครัวแบบหลายมิติ (Carlson, Kacmar, & Williams, 2000) ที่ผู้ศึกษา แปลเป็นภาษาไทย มีค่าสัมประสิทธิ์แอลฟาของครอนบาคเท่ากับ 0.97 วิเคราะห์ข้อมูลโดยหา ค่าพารามิเตอร์ ผลการศึกษาพบว่า 1. พยาบาลในโรงพยาบาลเกินมีความขัดแย้งระหว่างงานกับครอบครัวด้านงานรบกวน ครอบครัวที่มีสาเหตุจากเวลาและความเครียดอยู่ในระดับปานกลาง (μ = 3.27, σ = 0.91; μ = 2.57, σ = 0.92 ตามลําดับ) และด้านงานรบกวนครอบครัวที่มีสาเหตุจากพฤติกรรมอยู่ในระดับน้อย (μ= 2.23, σ = 0.86) ส่วนความขัดแย้งระหว่างงานกับครอบครัวด้านครอบครัวรบกวนงานที่มีสาเหตุจากเวลา ความเครียดและพฤติกรรมอยู่ในระดับน้อย (μ= 2.31, σ = 0.65; μ= 1.83, σ=0.78, μ = 2.08, σ=0.79 ตามลําดับ)2. พยาบาลที่มีความแตกต่างของเพศ อายุ และแผนกที่ปฏิบัติงานจะมีระดับความขัดแย้ง ระหว่างงานกับครอบครัวด้านงานรบกวนครอบครัวที่มีสาเหตุจากเวลาแตกต่างกัน พยาบาลที่มีความ แตกต่างของอายุ จํานวนบุตร และแผนกที่ปฏิบัติงานจะมีระดับความขัดแย้งระหว่างงานกับครอบครัว ด้านงานรบกวนครอบครัวที่มีสาเหตุจากความเครียดแตกต่างกัน พยาบาลที่มีความแตกต่างของอายุ สถานภาพสมรส จํานวนบุตร และแผนกที่ปฏิบัติงานจะมีความขัดแย้งระหว่างงานกับครอบครัวด้าน งานรบกวนครอบครัวที่มีสาเหตุจากพฤติกรรมแตกต่างกัน พยาบาลที่ปฏิบัติงานในแผนกที่ปฏิบัติงาน ที่แตกต่างกันจะมีความขัดแย้งระหว่างงานกับครอบครัวด้านครอบครัวรบกวนงานที่มีสาเหตุจากเวลา แตกต่างกัน พยาบาลที่มีความแตกต่างของสถานภาพสมรสจะมีความขัดแย้งระหว่างงานกับครอบครัว ด้านครอบครัวรบกวนงานที่มีสาเหตุจากความเครียดแตกต่างกัน พยาบาลที่มีความแตกต่างของอายุ และแผนกที่ปฏิบัติงานจะมีความขัดแย้งระหว่างงานกับครอบครัวด้านครอบครัวรบกวนงานที่มี สาเหตุจากพฤติกรรมแตกต่างกัน 3. แนวทางในการลดความขัดแย้งระหว่างงานกับครอบครัว คือ การการลดภาระงานของ พยาบาล การเพิ่มความสุขในการทํางานของพยาบาล และการให้ความรู้เพื่อเพิ่มทักษะในการจัดการ กับความขัดแย้งระหว่างงานกับครอบครัว ผู้บริหารสามารถใช้ผลการศึกษาครั้งนี้เป็นแนวทางเพื่อป้องกันและจัดการความขัดแย้งระหว่าง งานกับครอบครัวอันจะนําไปสู่การปรับปรุงคุณภาพชีวิตที่ดีของพยาบาลและการทํางานที่มีประสิทธิภาพ ต่อไปen_US
Appears in Collections:NURSE: Independent Study (IS)

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
601232003 พัชรินทร์ เขตประทุม.pdf2.8 MBAdobe PDFView/Open    Request a copy


Items in CMUIR are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.