Please use this identifier to cite or link to this item: http://cmuir.cmu.ac.th/jspui/handle/6653943832/68868
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.authorพิสัยศิษฎ์ ชัยจรีนนท์en_US
dc.contributor.authorสิทธิเดช นิลเจริญen_US
dc.contributor.authorพีรานุช ประหยัดทรัพย์en_US
dc.contributor.authorรินเดช ขจรนิติกุลen_US
dc.contributor.authorแมนสรวง อักษรนุกิจen_US
dc.date.accessioned2020-07-16T07:36:42Z-
dc.date.available2020-07-16T07:36:42Z-
dc.date.issued2558en_US
dc.identifier.citationเชียงใหม่ทันตแพทยสาร 36,2 (ก.ค.-ธ.ค. 2558), 111-120en_US
dc.identifier.issn0857-6920en_US
dc.identifier.urihttp://web1.dent.cmu.ac.th/cmdj/fulltext/fulltext_2558_36_2_394.pdfen_US
dc.identifier.urihttp://cmuir.cmu.ac.th/jspui/handle/6653943832/68868-
dc.descriptionเชียงใหม่ทันตแพทยสาร เป็นวารสารวิชาการทางทันตกรรมจัดทำขึ้นโดย คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่มีขอบข่ายและวัตถุประสงค์ เพื่อรวบรวมบทวิทยาการที่เป็นงานวิจัยพื้นฐาน งานวิจัยประยุกต์ บทความปริทัศน์ รายงานผู้ป่วย และบทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานทันตกรรมทุกสาขา ที่ผ่านการพิจารณากลั่นกรองมาแล้วจากผู้ทรงคุณวุฒิ ทั้งนี้เนื้อหาของบทความสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ทั้งการปฏิบัติงานในคลินิกและชุมชน รวมถึงนำไปต่อยอดสำหรับการทำงานวิจัยเพื่อพัฒนาองค์ความรู้ทางทันตกรรมต่อไป โดยมีกำหนดการตีพิมพ์วารสาร ปีละ 3 ครั้ง คือ ประจำเดือนมกราคม – เมษายน, พฤษภาคม – สิงหาคม และ กันยายน – ธันวาคมen_US
dc.description.abstractศึกษาความแข็งแรงยึดดึงระหว่างซี่ฟันเทียมชนิดต่างๆกับฐานฟันเทียมที่มีผลของปริมาณสารอัดแทรกอลูมินาที่แตกต่างกัน การศึกษานี้ใช้สารอัดแทรกอลูมินาทรงกลมเส้นผ่านศูนย์กลาง 18-23 ไมครอนถูกปรับปรุงพื้นผิวด้วยสารคู่ควบไซเลนเอ็มพีเอส ปริมาณร้อยละ 0.1 โดยน้ำหนักเตรียมชิ้นตัวอย่างโดยนำสารอัดแทรกอลูมินาผสมรวมกับผงอะคริลิก ในสัดส่วนอลูมินาร้อยละ 5 และ 10 โดยน้ำหนัก โดยอะคริลิกไม่ผสมอลูมินาเป็นกลุ่มควบคุม นำทั้ง 3 กลุ่ม อัดติดกับซี่ฟันเทียม 3 ชนิด (เมเจอร์เด็นส์ ไอพีเอ็นและออโทสิต) แล้วบ่มด้วยความร้อน ตัดชิ้นงานเป็นรูปมินิดัมเบลล์ (กลุ่มละ 10 ชิ้น) แช่ในน้ำกลั่นอุณหภูมิ 37 องศาเซลเซียสเป็นเวลา 24 ชั่วโมง ทดสอบความแข็งแรงยึดดึงโดยเครื่องทดสอบสากลความเร็วในการดึง 1 มิลลิเมตรต่อนาที วิเคราะห์ค่าความแข็งแรงยึดดึงโดยใช้สถิติชนิดความแปรปรวนแบบจำแนกสองทางและทดสอบเชิงซ้อนโดยวิธีทูกี้ ที่ความเชื่อมั่นร้อยละ 95 ผลการศึกษาจากผลการวิเคราะห์การคงอยู่ของซิลิกอนพบธาตุซิลิกอนติดอยู่บนพื้นผิวของสารอัดแทรกอลูมินา ผลการวิเคราะห์ทางสถิติพบมีความสัมพันธ์กันระหว่างปริมาณอลูมินากับชนิดของซี่ฟันเทียม โดยความแข็งแรงยึดดึงในกลุ่มควบคุมและกลุ่มทดลองมีค่าไม่แตกต่างกันทางสถิติ ยกเว้นกลุ่มออโทสิตที่ฐานฟันเทียมเสริมอลูมินาร้อยละ 10 มีค่าความแข็งแรงยึดดึงน้อยสุดอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ วิเคราะห์ด้วย กล้องจุลทรรศน์ในทุกกลุ่มทดลองพบลักษณะการแตกหักเป็นชนิดยึดติด สรุปผลการศึกษาพบว่าการเสริมอลูมินาที่ถูกปรับปรุงพื้นผิวด้วยสารคู่ควบไซเลนปริมาณน้อยกว่าร้อยละ 10 ลงในฐานฟันเทียมไม่มีผลต่อค่าความแข็งแรงยึดดึงระหว่างฐานฟันเทียมกับซี่ฟันเทียม ยกเว้นกลุ่มออโทสิต ที่ฐานฟันเทียมเสริมอลูมินาร้อยละ 10 มีค่าความแข็งแรงยึดดึงน้อยที่สุด Objectives: The purpose of this study was to investigate the effect of amounts of alumina filler reinforced into methacrylate denture base on tensile bond strength between various types of denture teeth and denture base. Methods: Alumina filler, spherical-shaped with 18-23 µm in diameter (surface area of 0.36 m2 /g), was silanized with 0.1 wt% of gamma-methacryloxypropyltrimethoxysilane (MPS). The 5 and 10 wt% of silanized alumina filler were mixed with heat-polymerized polymethylmethacrylate (PMMA). Heat-polymerized PMMA without alumina reinforcement was served as control. Three types of artificial denture teeth [Major dent (MD), Excellence IPN (IPN) and Orthosit (OS)] were packed with heat-polymerized PMMA and prepared into mini dumbbell-shaped specimens (n=10). The specimens were immersed in distilled water at 37°C for 24 h prior to testing. The tensile bond strength test was performed using a universal testing machine (Instron 8872, Fareham, UK) with a 1 mm/min crosshead speed until fracture. The bond strength was determined and analyzed by Two-way ANOVA and Tukey HSD’s test with a significance level of 0.05. Results: The EDS analysis showed the deposition of silicon element on the surface of alumina filler. From statistical analysis, the interactions between the amounts of alumina filler reinforced into denture base and various types of denture teeth were significant. The tensile bond strengths of all groups except in 10 wt% of OS group were not significantly different, while, in 10 wt% of OS group was significantly smaller than the other groups. The failure mode of all of the specimens was adhesive failure. Conclusions: Within the limitations of this study, it can be concluded that addition of silanized alumina filler reinforced into denture base less than 10 wt% do not affect tensile bond strength between denture base and denture teeth except in 10 wt% of OS group.en_US
dc.language.isoThaen_US
dc.publisherคณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่en_US
dc.subjectอลูมินาen_US
dc.subjectซี่ฟันเทียมen_US
dc.subjectฐานฟันเทียมen_US
dc.subjectสารคู่ควบไซเลนen_US
dc.subjectความแข็งแรงยึดดึงen_US
dc.subjectAluminaen_US
dc.subjectArtificial Teethen_US
dc.subjectDenture Baseen_US
dc.subjectSilane Coupling Agenten_US
dc.subjectTensile Bond Strengthen_US
dc.titleการศึกษาความแข็งแรงยึดดึงระหว่างฐานฟันเทียมเมทาคริเลตดัดแปลงกับซี่ฟันเทียมชนิดต่างๆen_US
dc.title.alternativeThe Study of Tensile Bond Strength between Modified Methacrylate Denture Base and various Types of Denture Teethen_US
Appears in Collections:CMUL: Journal Articles

Files in This Item:
There are no files associated with this item.


Items in CMUIR are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.