Please use this identifier to cite or link to this item:
http://cmuir.cmu.ac.th/jspui/handle/6653943832/67283
Full metadata record
DC Field | Value | Language |
---|---|---|
dc.contributor.author | สุรดา ถนอมรัตน์ | en_US |
dc.contributor.author | ชวพรพรรณ จันทร์ประสิทธิ์ | en_US |
dc.contributor.author | ธานี แก้วธรรมานุกูล | en_US |
dc.date.accessioned | 2020-04-02T14:43:14Z | - |
dc.date.available | 2020-04-02T14:43:14Z | - |
dc.date.issued | 2560 | en_US |
dc.identifier.citation | พยาบาลสาร 44, 4 (ต.ค.-ธ.ค. 2560), 118-133 | en_US |
dc.identifier.issn | 0125-5118 | en_US |
dc.identifier.uri | https://he02.tci-thaijo.org/index.php/cmunursing/article/view/135620/101340 | en_US |
dc.identifier.uri | http://cmuir.cmu.ac.th/jspui/handle/6653943832/67283 | - |
dc.description | วารสารพยาบาลเป็นวารสารทางวิชาการที่เผยแพร่ความรู้ทางการพยาบาลและการผดุงครรภ์ รวมทั้งความรู้ใหม่ในวงการสุขภาพที่เกี่ยวข้องและเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็น และ ประสบการณ์เกี่ยวกับวิชาชีพการพยาบาลอีกทั้งเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้ร่วมวิชาชีพและภาพลักษณ์ของวิชาชีพการพยาบาล จัดทำโดย สมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ กำหนดออกปีละ 4 ฉบับ | en_US |
dc.description.abstract | สภาพการทำงานในกิจการขนาดเล็กที่ต่ำกว่ามาตรฐาน ทำให้มีความเสี่ยงด้านสุขภาพจากการสัมผัสปัจจัยคุกคามสุขภาพจากการทำงาน การวิจัยเชิงพรรณนาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยคุกคามสุขภาพจากการทำงานและภาวะสุขภาพตามความเสี่ยงของคนงานเคาะพ่นสีรถยนต์ในกิจการขนาดเล็ก จำนวน 352 คน ในเขตอำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ รวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสัมภาษณ์ที่ผ่านการตรวจสอบคุณภาพ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา ผลการวิจัยพบว่า ปัจจัยคุกคามสุขภาพจากสภาพแวดล้อมการทำงานที่สำคัญ ได้แก่ ปัจจัยคุกคามสุขภาพด้านการยศาสตร์ ประกอบด้วย ท่าทางที่ไม่เหมาะสมในการทำงาน เช่น ก้ม/เงยศีรษะเป็นประจำ (ร้อยละ 87.50) และท่าทางการทำงานซ้ำๆ เช่น ยกแขนเหนือระดับไหล่ซ้ำๆ (ร้อยละ 59.66) ปัจจัยคุกคามสุขภาพด้านเคมี ได้แก่ สัมผัสกลิ่นสารเคมี (ร้อยละ 78.98) ละอองสี (ร้อยละ 73.86) และตัวทำละลายที่อยู่ในสารเคมี (ร้อยละ 67.90) ปัจจัยคุกคามสุขภาพด้านกายภาพ ได้แก่ ความสั่นสะเทือนและเสียงดัง (ร้อยละ 55.11) ส่วนสภาพการทำงานที่ไม่ปลอดภัย ได้แก่ การทำงานกับเครื่องมืออุปกรณ์ของมีคม (ร้อยละ 49.43) สำหรับภาวะสุขภาพตามความเสี่ยงในส่วนการเจ็บป่วยที่อาจเกี่ยวเนื่องจากการสัมผัสปัจจัยคุกคามสุขภาพที่สำคัญ ได้แก่ ปวดต้นคอ ไหล่ และหลัง (ร้อยละ 64.77) ชาอวัยวะต่างๆ (ร้อยละ 58.81) และระคายเคืองตา แสบตา คันตา (ร้อยละ 45.45) ส่วนการบาดเจ็บที่เกี่ยวเนื่องจากการทำงานในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาพบเพียงร้อยละ 30.68 ด้วยสาเหตุจากวัตถุหนีบ/ดึงอวัยวะ (ร้อยละ 43.71) ผลการวิจัยครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า พยาบาลอาชีวอนามัยและทีมสุขภาพที่เกี่ยวข้องควรให้ความสำคัญกับการจัดการความเสี่ยงจากการทำงานเพื่อป้องกันผลไม่พึงประสงค์ต่อสุขภาพ การสื่อสารความเสี่ยงด้านสุขภาพจากการทำงานจึงมีความสำคัญ การพัฒนาโปรแกรมสร้างเสริมสุขภาพหรือลดความเสี่ยงกรณีปัจจัยคุกคามสุขภาพด้านการยศาสตร์ควรให้ความสำคัญเป็นลำดับแรก ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตการทำงานในกลุ่มคนงานเคาะพ่นสีรถยนต์ | en_US |
dc.language.iso | Tha | en_US |
dc.publisher | คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ | en_US |
dc.subject | ปัจจัยคุกคามสุขภาพจากการทำงาน | en_US |
dc.subject | ภาวะสุขภาพตามความเสี่ยง | en_US |
dc.subject | คนงานเคาะพ่นสีรถยนต์ | en_US |
dc.title | ปัจจัยคุกคามสุขภาพจากการทำงานและภาวะสุขภาพตามความเสี่ยงของคนงานเคาะพ่นสีรถยนต์ | en_US |
dc.title.alternative | Occupational Health Hazards and Health Status Related to Risk Among Workers in Auto Body Repair Shops | en_US |
Appears in Collections: | CMUL: Journal Articles |
Files in This Item:
There are no files associated with this item.
Items in CMUIR are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.