Please use this identifier to cite or link to this item: http://cmuir.cmu.ac.th/jspui/handle/6653943832/64686
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.authorศิวรักษ์ อินต๊ะวงค์en_US
dc.contributor.authorสันติชัย ชีวสุทธิศิลป์en_US
dc.date.accessioned2019-05-07T10:02:19Z-
dc.date.available2019-05-07T10:02:19Z-
dc.date.issued2553en_US
dc.identifier.issn0857-2178en_US
dc.identifier.urihttp://researchs.eng.cmu.ac.th/UserFiles/File/Journal/17_2/7Sivarak.pdfen_US
dc.identifier.urihttp://cmuir.cmu.ac.th/jspui/handle/6653943832/64686-
dc.descriptionวารสารวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (Engineering Journal Chiang Mai University) เป็นวารสารที่ตีพิมพ์บทความวิชาการในลักษณะบทความวิจัย และบทความปริทัศน์ที่มีคุณภาพสูง ทางด้านวิศวกรรมศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี รวมถึงสาขาอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยมีเนื้อหาที่เป็นองค์ความรู้พื้นฐานจนกระทั่งการนำไปใช้ประโยชน์ ทั้งในแง่ทฤษฎี การวางแผน การทดลอง การออกแบบ หรือการพัฒนาอุปกรณ์และการจำลองการทำงานของระบบ หรือกระบวนการต่างๆ เป็นต้น โดยเปิดรับบทความวิชาการทางสาขาวิศวกรรมศาสตร์ ตลอดทั้งปีen_US
dc.description.abstractงานวิจัยนี้มีจุดประสงค์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการจัดตารางการผลิต โดยลดความคลาดเคลื่อนของการวางแผนการผลิตที่เทียบกับการผลิตจริง และเพื่อหาวิธีการจัดลำดับงานที่เหมาะสม ที่ทำให้เวลาปิดงานของระบบ (Makespan) มีค่าน้อยที่สุด สำหรับการผลิตแผงวงจรชนิดอ่อน (Flex Cable Circuit) ในกระบวนการผลิต Roll to Roll processing ของสายการผลิต Double Side ในกลุ่มสินค้าประเภท Full Plate ซึ่งเป็นกระบวนการผลิตแบบไหลเลื่อน (Flowshop) มีลักษณะของปัญหาแบบ NP-Hard (Nonpolynomial Hard) คือใช้เวลาหาคำตอบที่ยาวนาน โดยสินค้าประเภท Full Plate มีจำนวนการสั่งผลิตเฉลี่ยกว่า 97% และมีรายการสินค้ากว่า 18 รายการของโรงงานผู้ผลิตชิ้นส่วนประกอบวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ในนิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือ จังหวัดลำพูน โดยปัญหาที่พบของโรงงานคือ ความคลาดเคลื่อนของเวลาปิดงานของระบบ จากการวางแผนการผลิตเทียบกับการผลิตจริง มีมากกว่า 20% และปัญหาการจัดลำดับงานที่ยังไม่มีความเหมาะสม ซึ่งทำให้เกิดการรอคอยเครื่องจักรในแต่ละสถานีงาน และเวลาปิดงานของระบบมีระยะเวลานาน ดังนั้นจึงได้พัฒนาแบบจำลองการผลิต (Simulation) ด้วยโปรแกรมอารีนาให้สอดคล้องกับการผลิตจริง เพื่อใช้เป็นตัวแบบในการหาเวลาปิดงานของระบบ ซึ่งสามารถลดความคลาดเคลื่อนเวลาปิดงาน ในการวางแผนการผลิตได้และหาวิธีจัดลำดับการผลิตด้วยวิธีฮิวริสติก 3 วิธีคือ Palmer, Gupta และ CDS (Campbell, Dudek and Smith) เปรียบเทียบกับการจัดลำดับงานด้วยวิธีเดิม เพื่อหาวิธีการจัดลำดับงานที่เหมาะสม ซึ่งให้เวลาปิดงานของระบบน้อยที่สุด โดยใช้แบบจำลองการผลิตข้างต้นเป็นตัวแบบในการหาเวลาปิดงาน ซึ่งผลการทดสอบความถูกต้องของ แบบจำลองการผลิต ด้วยวิธี Z-test เปรียบเทียบกับการผลิตจริง ที่ระดับความเชื่อมั่นทางสถิติ 95% พบว่าแบบจำลองดังกล่าวสามารถช่วยให้การวางแผนการผลิต มีความถูกต้องโดยสามารถลดความคลาดเคลื่อนจาก 12.80% เป็น 5.04% และนอกจากนี้ยังพบว่าวิธีการจัดลำดับการผลิตของ CDS เป็นวิธีที่ให้ผลดีกว่าเทคนิคอื่น ที่ทำให้เวลาปิดงานของระบบลดลงจากวิธีเดิมที่ระดับนัยสำคัญ 95%en_US
dc.languageThaen_US
dc.publisherมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ วารสารวิศวกรรมศาสตร์en_US
dc.titleการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดตารางการผลิตโดยวิธีฮิวริสติกและเทคนิคการจำลองแบบปัญหาในอุตสาหกรรม ประกอบชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์en_US
dc.title.alternativeEfficiency Improvement of Scheduling Using Heuristic Method and Simulation Technique in Electronic Assemblies Industry Productionen_US
dc.typeบทความวารสารen_US
article.title.sourcetitleวารสารวิศวกรรมศาสตร์en_US
article.volume17en_US
article.stream.affiliationsภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่en_US
article.stream.affiliationsภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่en_US
Appears in Collections:CMUL: Journal Articles

Files in This Item:
There are no files associated with this item.


Items in CMUIR are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.