Please use this identifier to cite or link to this item: http://cmuir.cmu.ac.th/jspui/handle/6653943832/79138
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.advisorอรชร มณีสงฆ์-
dc.contributor.authorณัฐพงศ์ วังในen_US
dc.date.accessioned2023-11-05T11:47:30Z-
dc.date.available2023-11-05T11:47:30Z-
dc.date.issued2023-07-
dc.identifier.urihttp://cmuir.cmu.ac.th/jspui/handle/6653943832/79138-
dc.description.abstractงานวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาส่วนประสมการตลาดที่มีอิทธิพลในการซื้อชุดตรวจโรคภูมิคุ้มกันต้านตนเองของห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ในประเทศไทย เก็บข้อมูลจากประชากรผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดซื้อ ได้แก่ แพทย์ นักเทคนิคการแพทย์/นักวิทยาศาสตร์ที่เป็นหัวหน้าห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ หรือผู้ใช้งานชุดตรวจโรคภูมิคุ้มกันต้านตนเอง และพนักงานฝ่ายจัดซื้อของโรงพยาบาลหรือศูนย์แล็บเอกชนข้างต้น จำนวน 20 แห่ง รวม 140 คน เครื่องมือที่ใช้เก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ตารางไขว้ และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One-Way ANOVA, F-test) โดยและเทียบรายคู่วีธีเชฟเฟ (Sheffe's Method) ผลการศึกษา พบว่า ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อขององค์กรในภาพรวมมีอิทธิพลในการซื้อชุดตรวจโรคภูมิคุ้มกันต้านตนเองของห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ในประเทศไทย ภาพรวมอยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 3.85 โดยรายด้านนั้นเรียงลำดับจากระดับอิทธิพลสูงสุด ได้แก่ ด้านความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ค่าเฉลี่ย 4.27 อยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมาเป็นปัจจัยด้านองค์กรค่าเฉลี่ย 3.74 และปัจจัยด้านสภาพแวดล้อม ค่าเฉลี่ย 3.55 อยู่ในระดับมาก ส่วนปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดในภาพรวมมีอิทธิพลในการซื้อชุดตรวจโรคภูมิคุ้มกันต้านตนเองของห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ในประเทศไทย พบว่า ภาพรวมอยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 3.73 โดยรายด้านนั้นเรียงลำดับจากระดับอิทธิพลสูงสุด ได้แก่ ด้านบุคคล ค่าเฉลี่ย 4.46 อยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมาเป็นด้านผลิตภัณฑ์ ค่าเฉลี่ย 4.12 ด้านกระบวนการให้บริการ ค่าเฉลี่ย 3.93 และด้านช่องทางจัดจำหน่าย ค่าเฉลี่ย 3.68 อยู่ในระดับมาก ส่วนด้านการส่งเสริมการตลาด ค่าเฉลี่ย 3.41 ด้านการสร้างและการนำเสนอลักษณะทางกายภาพ ค่าเฉลี่ย 3.29 และด้านราคา ค่าเฉลี่ย 3.05 อยู่ในระดับปานกลางen_US
dc.language.isootheren_US
dc.publisherเชียงใหม่ : บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่en_US
dc.titleส่วนประสมการตลาดที่มีอิทธิพลในการซื้อชุดตรวจโรคภูมิคุ้มกันต้านตนเองของห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ในประเทศไทยen_US
dc.title.alternativeMarketing mix affecting purchase of autoimmune testing kits of diagnostic laboratories in Thailanden_US
dc.typeIndependent Study (IS)
thailis.controlvocab.thashพฤติกรรมผู้บริโภค-
thailis.controlvocab.thashการตลาด -- การตัดสินใจ-
thesis.degreemasteren_US
thesis.description.thaiAbstractงานวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาส่วนประสมการตลาดที่มีอิทธิพลในการซื้อชุดตรวจโรคภูมิคุ้มกันต้านตนเองของห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ในประเทศไทย เก็บข้อมูลจากประชากรผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดซื้อ ได้แก่ แพทย์ นักเทคนิคการแพทย์/นักวิทยาศาสตร์ที่เป็นหัวหน้าห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ หรือผู้ใช้งานชุดตรวจโรคภูมิคุ้มกันต้านตนเอง และพนักงานฝ่ายจัดซื้อของโรงพยาบาลหรือศูนย์แล็บเอกชนข้างต้น จำนวน 20 แห่ง รวม 140 คน เครื่องมือที่ใช้เก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ตารางไขว้ และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One-Way ANOVA, F-test) โดยและเทียบรายคู่วีธีเชฟเฟ (Sheffe's Method) ผลการศึกษา พบว่า ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อขององค์กรในภาพรวมมีอิทธิพลในการซื้อชุดตรวจโรคภูมิคุ้มกันต้านตนเองของห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ในประเทศไทย ภาพรวมอยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 3.85 โดยรายด้านนั้นเรียงลำดับจากระดับอิทธิพลสูงสุด ได้แก่ ด้านความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ค่าเฉลี่ย 4.27 อยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมาเป็นปัจจัยด้านองค์กรค่าเฉลี่ย 3.74 และปัจจัยด้านสภาพแวดล้อม ค่าเฉลี่ย 3.55 อยู่ในระดับมาก ส่วนปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดในภาพรวมมีอิทธิพลในการซื้อชุดตรวจโรคภูมิคุ้มกันต้านตนเองของห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ในประเทศไทย พบว่า ภาพรวมอยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 3.73 โดยรายด้านนั้นเรียงลำดับจากระดับอิทธิพลสูงสุด ได้แก่ ด้านบุคคล ค่าเฉลี่ย 4.46 อยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมาเป็นด้านผลิตภัณฑ์ ค่าเฉลี่ย 4.12 ด้านกระบวนการให้บริการ ค่าเฉลี่ย 3.93 และด้านช่องทางจัดจำหน่าย ค่าเฉลี่ย 3.68 อยู่ในระดับมาก ส่วนด้านการส่งเสริมการตลาด ค่าเฉลี่ย 3.41 ด้านการสร้างและการนำเสนอลักษณะทางกายภาพ ค่าเฉลี่ย 3.29 และด้านราคา ค่าเฉลี่ย 3.05 อยู่ในระดับปานกลางen_US
Appears in Collections:BA: Independent Study (IS)

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
641532022 ณัฐพงศ์ วังใน.pdf2.29 MBAdobe PDFView/Open    Request a copy


Items in CMUIR are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.