Please use this identifier to cite or link to this item: http://cmuir.cmu.ac.th/jspui/handle/6653943832/78947
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.advisorชูชัย สมิทธิไกร-
dc.contributor.authorทราย อภัยโสen_US
dc.date.accessioned2023-10-05T18:35:12Z-
dc.date.available2023-10-05T18:35:12Z-
dc.date.issued2565-01-
dc.identifier.urihttp://cmuir.cmu.ac.th/jspui/handle/6653943832/78947-
dc.description.abstractThe objectives of this study were (1) to study the influence of ethical leadership on organizational commitment of operational employees in governmental and private sectors and (2) to study the serial mediating roles of work-life balance and workplace well-being on association between ethical leadership and organizational commitment of operational employees in governmental and private sectors. The correlational research design was used. The sample was comprised of 216 persons. The research instruments consisted of demographic information sheet, ethical leadership scale, organizational commitment scale, ethical leadership scale, work-life balance scale, and workplace well-being scale. Statistics used in data analysis were descriptive statistics, Pearson's correlational analysis, and serial mediation effect analysis. Results showed that: 1) Ethical leadership had a positive effect on organizational commitment (β = .27, p <.01). 2) Ethical leadership had a positive effect on work-life balance (β = .21, p <.01). 3) Work-life balance did not has a positive effect on organizational commitment (β = .09, p>.05). 4) Work-life balance did not mediate the effect of ethical leadership on organizational commitment (β =.02, p>.05). 5) Work-life balance had a positive effect on workplace well-being (β = .50, p <.01). 6) Ethical leadership had a positive effect on workplace well-being (β = .38,p <.01). 7 Workplace well-being had a positive effect on organizational commitment (β = .54, p <.01). 8) Workplace well-being mediated the effect of ethical leadership on organizational commitment (β =.21, p <.01). 9)Work-life balance and workplace well-being serially mediated the effect of ethical leadership on organizational commitment (β = .06, p <.01).en_US
dc.language.isootheren_US
dc.publisherเชียงใหม่ : บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่en_US
dc.subjectผู้นำเชิงจริยธรรมen_US
dc.titleอิทธิพลของภาวะผู้นำเชิงจริยธรรมที่มีต่อความผูกพันธ์ต่อองค์การของพนักงานระดับปฏิบัติการ: บทบาทการเป็นตัวแปรสื่อแบบอนุกรมของความสมดุลระหว่างงานกับชีวิตและสุขภาวะในการทำงานen_US
dc.title.alternativeInfluence of ethical leadershipon organizational commitment of operational employees: serial mediating roles of work-life balance and workplace well-beingen_US
dc.typeIndependent Study (IS)
thailis.controlvocab.thashภาวะผู้นำ-
thailis.controlvocab.thashจริยธรรมในการทำงาน-
thailis.controlvocab.thashสุขภาวะ-
thailis.controlvocab.thashการทำงาน-
thesis.degreemasteren_US
thesis.description.thaiAbstractการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาอิทธิพลของภาวะผู้นำเชิงจริยธรรมที่มีต่อความ ผูกพันต่อองค์การ ของพนักงานระดับปฏิบัติการ ในหน่วยงานภาครัฐและเอกชน และ (2) ศึกษา บทบาทการเปีนตัวแปรสื่ออิทธิพลแบบอนุกรมของความสมดุลระหว่างงานกับชีวิตและสุขภาวะใน การทำงาน ในความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำเชิงจริยธรรมและความผูกพันต่อองค์การของพนักงาน ระดับปฏิบัติการในหน่วยงานภาครัฐและเอกชน รูปแบบการศึกษาครั้งนี้เปีนการวิจัยเชิงสหสัมพันธ์ โดยกลุ่มตัวอย่าง คือ พนักงานระดับ ปฏิบัติการ ของหน่วยงานภาครัฐและเอกชน จำนวน 216 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ประกอบด้วย แบบสอบถามลักษณะส่วนบุคคล แบบวัดความผูกพันต่อองค์การ แบบวัดภาวะผู้นำเชิง จริยธรรม แบบวัดความสมดุลระหว่างงานกับ และแบบวัดสุขภาวะในการทำงาน สถิติที่ใช้ในการ วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ สถิติเชิงพรรณนา การวิเคราะห์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน และการวิเคราะห์การ สื่ออิทธิพลของตัวแเปร ผลการวิจัย 1) ภาวะผู้นำเชิงจริยธรรมมีอิทธิพลทางบวกต่อความผูกพันต่อองค์การอย่างมีนัยสำคัญทาง สถิติ (β =.27,p<.01) 2) ภาวะผู้นำเชิงจริยธรรมมีอิทธิพลทางบวกต่อความสมดุลระหว่างงานกับชีวิตอย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติ (β =.21,p <.01) 3) ความสมดุลระหว่างงานกับชีวิตไม่มีอิทธิพลทางบวกต่อความผูกพันต่อองค์การ (β = .09, p<.05) 4) ความสมดุลระหว่างงานกับชีวิตไม่มีบทบาทเป็นตัวแปรสื่ออิทธิพลของภาวะผู้นำเชิง จริยธรรมที่มีต่อความผูกพันต่อองค์การ (β <= .02, p> .05) 5) ความสมดุลระหว่างงานกับชีวิตมีอิทธิพลทางบวกต่อสุขภาวะในการทำงานอย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติ (β = .50, p <.01) 6) ภาวะผู้นำเชิงจริยธรรมมีอิทธิพลทางบวกต่อสุขภาวะในการทำงานอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (β =.38, p<.01) 7) สุขภาวะในการทำงานมีอิทธิพลทางบวกต่อความผูกพันต่อองค์การอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (β =.54, p<.01) 8) สุขภาวะในการทำงานมีบทบาทเป็นตัวเปรสื่ออิทธิพลของภาวะผู้นำเชิงจริยธรรมที่มีต่อ ความผูกพันต่อองค์การอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (β = .21, p<.01) 9) ความสมดุลระหว่างงานกับชีวิตและสุขภาวะ ในการทำงานมีบทบาทเป็นตัวแปรสื่ออิทธิพล แบบอนุกรมในความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำเชิงจริยธรรมและความผูกพันต่อองค์การอย่างมื นัยสำคัญทางสถิติ (β = .06, p <.01)en_US
Appears in Collections:HUMAN: Independent Study (IS)

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
620132033 ทราย อภัยโส.pdf3.22 MBAdobe PDFView/Open    Request a copy


Items in CMUIR are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.