Please use this identifier to cite or link to this item:
http://cmuir.cmu.ac.th/jspui/handle/6653943832/74185
Full metadata record
DC Field | Value | Language |
---|---|---|
dc.contributor.advisor | เรนัส เสริมบุญสร้าง | - |
dc.contributor.author | ฤทธิพร ยืนยงวรรณโชติ | en_US |
dc.date.accessioned | 2022-10-04T11:13:14Z | - |
dc.date.available | 2022-10-04T11:13:14Z | - |
dc.date.issued | 2022-08 | - |
dc.identifier.uri | http://cmuir.cmu.ac.th/jspui/handle/6653943832/74185 | - |
dc.description.abstract | The objective of Independent research on Marketing mix affecting consumer decision towards purchasing housing estate in Mueang Chiang Mai District was to study the factors of marketing mix that affect consumers' decision to buy a housing estate in Mueang Chiang Mai District which the study data was collected by questionnaires. The population in this study was a group of people who was likely and interested in buying a housing estate in Muang district Chiang Mai Province with a price from 1 million baht or above. As the exact number of population was not known; therefore, the sample calculation formula of Yamane was used (Yamane, 1973), with a reliability level of 95% to obtain a sample size of 385 by convenience sampling method. The study was performed according to the framework of the marketing mix. The information obtained would be analyzed by using descriptive statistics which were frequency, percentage and mean and inferential statistics which was One-Way ANOVA. Comparing market mix factors was classified by age, average monthly income and the number of family members and testing the differences of sub-factors in pairs with Scheffe's method. The results of the study found that most of the respondents were female aged 20-29 years old, graduated with a bachelor's degree, single, working as a private company employee, average income less than 20,000 baht per month and 3 - 4 family members. Consumer behavior in purchasing a housing estate, Muang District, Chiang Mai Province found that most of the respondents had their original domicile in Chiang Mai Province. They wanted to buy a housing estate as the first home. The house style was a two-story detached house. The preferred location was near the Superhighway. The purpose of the purchase was to live with family. The respondents had searched and compared the information from the internet more than 1 year before making a decision to buy a housing estate. They preferred the price less than 3,000,000 baht. Most of the respondents made their own decisions themselves with considering reasons such as convenient transportation, for example, the house located on the main road and not far from alleyway. The study found that the marketing mix being important in the decision to buy a housing estate, Muang District, Chiang Mai Province, had significant effect on purchasing decision. The factor with the highest average was the product factor and price factor followed by marketing promotion factor and distribution factor respectively. From product part, the top three sub factors with the highest average were the quality of construction materials and utilities, e.g., roads, electricity, water supply, drainage systems, waste management, project location and after-sales service, convenient location for travelling and reliable security guards. From price part, the top three sub factors with the highest average were the suitable price for the size of the house, the suitable price for the size of the land, the suitable price for purchasing power or economic condition and receiving low interest rates from bank loans. From distribution part, the top three sub factors with the highest average were the various contact channels for informations, e.g., telephone, Line, Facebook, several sales offices, i.e., booking through other projects from co-owner, online booking channel i.e., websites and project booths for selling houses with cooperative banks such as Money Expo. From promotion part, the top three sub factors with the highest average were having a full- furnished model home, assisting for bank loans from financial institutions and promotion campaign for 0% transfer fee. The results showed that the sample groups with different age focused on the marketing mix of product factors, distribution factors and marketing promotion factors dissimilarly. The price factor was not different. Also, the sample groups with different average monthly income focused on the marketing mix of product factors, distribution factors and marketing promotion factors dissimilarly. The price factor was not different. However, the sample group with different number of family members focused on all marketing mix of product factors, price factor, distribution factors and marketing promotion factors differently. | en_US |
dc.language.iso | other | en_US |
dc.publisher | เชียงใหม่ : บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ | en_US |
dc.subject | ปัจจัยส่วนประสมการตลาด | en_US |
dc.subject | การตัดสินใจซื้อบ้านจัดสรร | en_US |
dc.subject | บ้านจัดสรรอำเภอเมืองเชียงใหม่ | en_US |
dc.title | ส่วนประสมการตลาดที่มีผลต่อผู้บริโภคในการตัดสินใจซื้อบ้านจัดสรรในอำเภอเมืองเชียงใหม่ | en_US |
dc.title.alternative | Marketing mix affecting consumer decision towards purchasing housing estate in Mueang Chiang Mai District | en_US |
dc.type | Independent Study (IS) | |
thailis.controlvocab.thash | ความพอใจของผู้บริโภค -- เชียงใหม่ | - |
thailis.controlvocab.thash | พฤติกรรมผู้บริโภค -- เชียงใหม่ | - |
thailis.controlvocab.thash | บ้านจัดสรร -- เชียงใหม่ | - |
thesis.degree | master | en_US |
thesis.description.thaiAbstract | การค้นคว้าอิสระเรื่องส่วนประสมการตลาดที่มีผลต่อผู้บริโภคในการตัดสินใจซื้อบ้านจัดสรรในอำเภอเมืองเชียงใหม่ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาถึงปัจจัยส่วนประสมการตลาดที่มีความสำคัญต่อผู้บริโภคในการตัดสินใจซื้อบ้านจัดสรรในอำเภอเมืองเชียงใหม่ ผู้ศึกษาได้เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยแบบสอบถาม ประชากรในการศึกษาครั้งนี้ คือ กลุ่มผู้มีแนวโน้ม และสนใจที่จะซื้อบ้านจัดสรรในอำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ที่มีราคาตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งไม่ทราบจำนวนประชากรที่ชัดเจน จึงใช้สูตรการคำนวณหาขนาดกลุ่มตัวอย่างของ ยามาเน่ (Yamane, 1973) โดยกำหนดความเชื่อมั่นที่ 95% ได้ขนาดของกลุ่มตัวอย่างจำนวน 385 ราย โดยการเลือกสุ่มตัวอย่างตามความสะดวก (Convenience Sampling) ในการเก็บแบบสอบถาม ตามกรอบของทฤษฎีส่วนประสมการตลาด ข้อมูลที่ได้นำมาวิเคราะห์โดยใช้สถิติเชิงพรรณนา (Descriptive Statistics) ได้แก่ ความถี่ (Frequency) ค่าร้อยละ (Percent) ค่าเฉลี่ย (Mean) และใช้สถิติอนุมาน ได้แก่ การวิเคราะห์ความแปรปรวน (One-Way ANOVA) โดยใช้การเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยปัจจัยส่วนประสมการตลาด จำแนกตามอายุ รายได้เฉลี่ยต่อเดือน และจำนวนสมาชิกในครอบครัว และทดสอบความแตกต่างของระดับปัจจัยย่อยเป็นรายคู่ ด้วยวิธีการของเชฟเฟ่ (Scheffe) ผลการศึกษา พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีอายุระหว่าง 20-29 ปี จบการศึกษาระดับปริญญาตรี มีสถานภาพโสด ประกอบอาชีพพนักงานบริษัทเอกชน มีรายได้ต่ำกว่า 20,000 บาทต่อเดือน มีจำนวนสมาชิกในครอบครัว จำนวน 3 - 4 คน พฤติกรรมผู้บริโภคในการเลือกซื้อบ้านจัดสรรในอำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่มีภูมิลำเนาเดิมอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ ต้องการซื้อบ้านจัดสรรเป็นบ้านหลังแรก รูปแบบบ้านเป็นแบบบ้านเดี่ยวสองชั้น มีความต้องการทำเลที่ตั้งบริเวณติดถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ วัตถุประสงค์การซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองกับครอบครัว โดยทำการค้นหาข้อมูลจากข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต มีการใช้ระยะเวลาในการหาข้อมูล และเปรียบเทียบโครงการก่อนการตัดสินใจซื้อบ้านจัดสรรมากกว่า 1 ปี มีความสนใจบ้านระดับราคาที่น้อยกว่า 3,000,000 บาท ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ตัดสินใจซื้อบ้านด้วยตนเอง เหตุผลในการพิจารณาเลือกซื้อบ้านจัดสรร ได้แก่ การเดินทางไป-มาสะดวก เช่น ติดถนนใหญ่ เข้าซอยไม่ลึก ส่วนประสมการตลาดที่มีความสำคัญในการตัดสินใจซื้อบ้านจัดสรรในอำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ พบว่า มีผลต่อการตัดสินใจซื้อในระดับมาก โดยปัจจัยที่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด คือ ปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์ และปัจจัยด้านราคา รองลงมา คือ ปัจจัยด้านการส่งเสริมการตลาด และปัจจัยด้านช่องทางการจัดจำหน่าย ตามลำดับ ด้านผลิตภัณฑ์ ปัจจัยย่อยที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 3 ลำดับแรก ได้แก่ คุณภาพของวัสดุที่ใช้ก่อสร้าง และระบบสาธารณูปโภค เช่น ถนน ไฟฟ้า ประปา ระบบระบายน้ำ การจัดเก็บขยะ สถานที่ตั้งโครงการ และการดูแล/บริการหลังการขาย ทำเลที่ตั้งสะดวกต่อการเดินทาง และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมีความน่าเชื่อถือ ด้านราคา ปัจจัยย่อยที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 3 ลำดับแรก ได้แก่ ราคามีความเหมาะสมกับขนาดของบ้าน ราคามีความเหมาะสมกับขนาดที่ดิน ราคาเหมาะสมกับกำลังซื้อ สภาพเศรษฐกิจ และโครงการบ้านจัดสรรได้รับอัตราดอกเบี้ยต่ำเมื่อกู้ยืมเงินจากธนาคาร ด้านช่องทางการจัดจำหน่าย ปัจจัยย่อยที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 3 ลำดับแรก ได้แก่ มีช่องทางติดต่อสอบถามข้อมูลหลากหลาย เช่น โทรศัพท์ ไลน์ เฟซบุ๊ก มีสำนักงานขายหลายที่ เช่น สามารถจองผ่านโครงการในเครือเดียวกัน และมีช่องทางรับจองบ้านทางออนไลน์ เช่น เว็บไซต์ โครงการออกบูธขายบ้านร่วมกับทางธนาคาร เช่น Money Expo ด้านการส่งเสริมการตลาด ปัจจัยย่อยที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 3 ลำดับแรก ได้แก่ มีบ้านตัวอย่างที่ตกแต่งเสร็จแล้วให้เข้าชม และการอำนวยความสะดวกด้านการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน มีกิจกรรมส่งเสริมการขายด้วยการ ฟรีค่าธรรมเนียมโอน ผลการทดสอบสมมติฐาน พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามที่มีอายุแตกต่างกัน ให้ความสำคัญกับปัจจัยส่วนประสมการตลาดด้านผลิตภัณฑ์ ด้านช่องทางการจัดจำหน่าย และด้านการส่งเสริมการตลาดแตกต่างกัน ส่วนปัจจัยด้านราคาไม่แตกต่างกัน ผู้ตอบแบบสอบถามที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนแตกต่างกัน ให้ความสำคัญกับปัจจัยส่วนประสมการตลาดด้านผลิตภัณฑ์ ด้านช่องทางการจัดจำหน่าย และด้านการส่งเสริมการตลาดแตกต่างกัน ส่วนปัจจัยด้านราคาไม่แตกต่างกัน และผู้ตอบแบบสอบถามที่มีจำนวนสมาชิกในครอบครัวแตกต่างกัน ให้ความสำคัญกับปัจจัยส่วนประสมการตลาดด้านผลิตภัณฑ์ ด้านราคา ด้านช่องทางการจัดจำหน่าย และด้านการส่งเสริมการตลาดแตกต่างกัน | en_US |
Appears in Collections: | BA: Independent Study (IS) |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
621532127-ฤทธิพร ยืนยงวรรณโชติw.pdf | 1.91 MB | Adobe PDF | View/Open Request a copy |
Items in CMUIR are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.