Please use this identifier to cite or link to this item:
http://cmuir.cmu.ac.th/jspui/handle/6653943832/74045
Full metadata record
DC Field | Value | Language |
---|---|---|
dc.contributor.advisor | Pimluck Kijjanapanich | - |
dc.contributor.advisor | Yothin Chimupala | - |
dc.contributor.author | Norapat Pratinthong | en_US |
dc.date.accessioned | 2022-09-01T16:36:29Z | - |
dc.date.available | 2022-09-01T16:36:29Z | - |
dc.date.issued | 2021 | - |
dc.identifier.uri | http://cmuir.cmu.ac.th/jspui/handle/6653943832/74045 | - |
dc.description.abstract | The research was studied the optimum conditions for sulfate removal from lignite coal mine drainage in Thailand by ettringite precipitation using Central Composite Design (CCD). The effects of Ca/S and Al/S ratio (mole basis) and reaction time on the sulfate removal efficiency were investigated. The full factorial statistical analysis showed that the Al/'S ratio and reaction time had a significant effect on sulfate removal efficiency, which the sulfate removal efficiency increases when Al/S ratio and reaction time are increased. The Ca/S ratio in the range of 1-7 had been found no significant effect on sulfate removal efficiency. The optimal reaction time obtain from the predicted equation from CCD was equal to 6.14 h, while CalS and Al/S ratio were fixed at 4 and 4.5, respectively, at ambient temperature. At the optimum condition, the sulfate removal of 99.6 and 99.0% were achieved from Lamphun and Lampang mine drainage, respectively, which is very close to the predicted value (100%). The research also found that, sulfate removal efficiency reduces from 99.6% to 64.2%, when sodium aluminate was used as aluminium source. The increasing of speed and time of rapidly stirring were not significantly effect on sulfate removal efficiency. | en_US |
dc.language.iso | en | en_US |
dc.publisher | Chiang Mai : Graduate School, Chiang Mai University | en_US |
dc.title | Sulfate removal from mine drainage by Ettringite precipitation | en_US |
dc.title.alternative | การกำจัดซัลเฟตจากน้ำระบายเหมืองแร่โดยการตกตะกอนเอททริงไกต์ | en_US |
dc.type | Thesis | |
thailis.controlvocab.lcsh | Sulfates | - |
thailis.controlvocab.lcsh | Mines and mineral resources | - |
thailis.controlvocab.lcsh | Coal mines and mining | - |
thesis.degree | master | en_US |
thesis.description.thaiAbstract | งานวิจัยนี้ศึกษาสภาวะที่เหมาะสมสำหรับการกำจัดซัลเฟตในน้ำระบายเหมืองแร่ถ่านหิน ลิกไนด์ของประเทศไทยด้วยการตกตะกอนเอททริงไกต์ โดยใช้ Central Composite Design (CCD) และทำการศึกษาผลของอัตราส่วนโดยโมลของแคลเซียมต่อซัลเฟต และอะลูมิเนียมต่อซัลเฟต และ ระยะเวลาในการทำปฏิกริยาต่อประสิทธิภาพการกำจัดซัลเฟตในน้ำระบายเหมืองแร่ จากการวิเคราะห์ ข้อมูลทางสถิติ โดย full factorial analysis พบว่าอัตราส่วน โดยโมลของอะลูมิเนียมต่อซัลเฟต และ ระยะเวลาในการทำปฏิกิริยาเป็นปัจจัยหลักที่มีผลต่อประภาพการกำจัดซัลเฟต โดยประสิทธิภาพการ กำจัดซัลเฟตมีค่าเพิ่มสูงขึ้น เมื่ออัตราส่วนโดยโมลของอะดูมิเนียมต่อซัลเฟต และระยะเวลาในการทำ ปฏิกิริยามีค่าเพิ่มมากขึ้น ส่วนอัตราส่วน โดยโมลของแคลเซียมต่อซัลเฟต ในช่วง 1-7 พบว่าไม่มีผล อย่างมีนัยยะสำคัญต่อประสิทธิภาพการกำจัดซัลเฟตจากที่ระดับความเชื่อมั่นร้อยละ 95 จากการ วิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติ โดย CCD พบว่าสภาวะที่เหมาะสมเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพการกำจัดซัลเฟ ตสูงสุดที่หาได้จากสมการทำนาย คือ ระยะเวลาในการทำปฏิกิริยาเท่ากับ 6.14 ชั่วโมง โดยให้ อัตราส่วน โดยโมลของแคลเซียมต่อซัลเฟต และอะลูมิเนียมต่อซัลเฟต มีค่าเท่ากับ 4 และ 4.5 ตามลำดับ ที่อุณหภูมิห้อง จากการทดลองพบว่าที่สภาวะที่เหมาะสมนี้มีคำการกำจัดซัลเฟตอยู่ที่ร้อย ละ 99.6 และ 99.0% สำหรับน้ำระบายเหมืองแร่ของจังหวัดลำพูนและจังหวัดลำปาง ตามลำดับ ซึ่ง ใกล้เคียงกับค่าที่คำนวณจากสมการทำนายมาก (100%) นอกจากนี้งานวิจัยยัง พบว่าการใช้โซเดียม อะลูมิเนตเป็นแหล่งอะลูมิเนียมทำให้ประสิทธิภาพในการกำจัดซัลเฟตลดลงจาก 99.6 เป็น 64.2% การ เพิ่มความเร็วรอบในการกวนของใบพัด และระยะเวลาในการกวนเร็วไม่ส่งผลอย่างมีนัยยะสำคัญต่อ ประสิทธิภาพการกำจัดซัลเฟต | en_US |
Appears in Collections: | ENG: Theses |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
610631029 นรภัทร ประทินทอง.pdf | 2.04 MB | Adobe PDF | View/Open Request a copy |
Items in CMUIR are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.