Please use this identifier to cite or link to this item: http://cmuir.cmu.ac.th/jspui/handle/6653943832/78476
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.advisorรวี ลงกานี-
dc.contributor.authorปานฤทัย ท่าช้างen_US
dc.date.accessioned2023-07-13T00:37:48Z-
dc.date.available2023-07-13T00:37:48Z-
dc.date.issued2023-06-
dc.identifier.urihttp://cmuir.cmu.ac.th/jspui/handle/6653943832/78476-
dc.description.abstractThis study delves into the intricate realm of the cost of capital for companies listed in the ESG100 group in Thailand, with a primary focus on comparing their capital costs to those of non-ESG100 companies. Additionally, it aims to elucidate the relationship between capital components, encompassing both equity and debt costs, and the crucial aspect of ESG100 inclusion. A comprehensive regression model is employed, postulating that ESG100 listing has a discernible influence on the cost of capital for these companies. Drawing upon a robust dataset spanning the years 2015 to 2019, comprising a sample size of 1,500 observations, this research encompasses 246 esteemed ESG100 companies, along with 1,254 non-ESG100 companies for comparative analysis. The findings of this study unveil a significant and profound association between ESG100 listing and the cost of capital. ESG100 companies exhibit a noteworthy negative relationship with equity costs, signifying a distinct advantage in this realm. Conversely, an intriguing positive relationship emerges between ESG100 listing and debt costs, highlighting a distinctive financing landscape for these companies. Specifically, ESG100 companies demonstrate a remarkable 0.26% reduction in equity costs (significant at a 0.10 level) and a striking 0.13% increase in debt costs (significant at a 0.01 level) compared to their non-ESG100 counterparts. Moreover, the meticulous analysis of mean differences in the cost of capital, meticulously dissected across diverse industry sectors, unravels captivating insights. On average, ESG100 companies manifet an astounding 0.96% reduction in equity costs (significant at a 0.01 level), reflecting a notable advantage over non-ESG100 companies. In parallel, ESG100 companies portray a distinctive 0.10% escalation in debt costs (significant at a 0.10 level), shedding light on the complex financial dynamics they navigate. The refined regression analysis reinforces and fortifies the findings derived from the mean difference analysis, emphasizing the statistical significance of ESG100 listing's influence on equity and debt costs. This research contributes to a deeper understanding of the interplay between ESG100 listing and the financial fabric of Thai corporations. The identified advantages in equity and debt costs provide valuable insights for investors, policymakers, and practitioners, facilitating informed decision-making and laying the foundation for a more sustainable future. In conclusion, the inclusion of companies in the ESG 100 group significantly impacts the cost of capital for Thai companies. This study's findings contribute to the existing body of knowledge by highlighting the distinct advantages enjoyed by ESG 100 companies in terms of reduced equity costs and increased debt costs. These insights pave the way for more comprehensive assessments of sustainable investment strategies and underscore the importance of incorporating environmental, social, and governance considerations into corporate financial practices.en_US
dc.language.isootheren_US
dc.publisherเชียงใหม่ : บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่en_US
dc.titleต้นทุนเงินทุนของบริษัทในกลุ่มหลักทรัพย์อีเอสจี 100 ในประเทศไทยen_US
dc.title.alternativeCost of capital of Thai companies in the ESG100en_US
dc.typeIndependent Study (IS)
thailis.controlvocab.thashบริษัทหลักทรัพย์-
thailis.controlvocab.thashสถาบันการเงิน-
thailis.controlvocab.thashเงินทุน -- ต้นทุน-
thailis.controlvocab.thashหุ้นและการเล่นหุ้น-
thesis.degreemasteren_US
thesis.description.thaiAbstractงานวิจัยนี้มุ่งศึกษาเรื่องต้นทุนเงินทุนของบริษัทในกลุ่มหลักทรัพย์อีเอสจี 100 ในประเทศไทย มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบต้นทุนเงินทุนของบริษัทในกลุ่มหลักทรัพย์อีเอสจี 100 กับที่ไม่อยู่ในกลุ่มหลักทรัพย์อีเอสจี 100 ว่ามีต้นทุนเงินทุนแตกต่างกันหรือไม่ และเพื่อหาความสัมพันธ์ระหว่างต้นทุนเงินทุนทั้งส่วนของต้นทุนเงินทุนจากผู้ถือหุ้นและต้นทุนเงินทุนจากการก่อหนี้ กับตัวแปรที่แสดงถึงการมีหรือไม่มีรายชื่อในกลุ่มหลักทรัพย์อีเอสจี 100 โดยแบบจำลองถดถอยของต้นทุนเงินทุนมีสมมติฐานว่า การที่บริษัทอยู่ในกลุ่มหลักทรัพย์อีเอสจี 100 จะส่งผลให้มีต้นทุนเงินทุนทั้งส่วนของ ผู้ถือหุ้นและหนี้สินแตกต่างจากบริษัทที่ไม่อยู่ในกลุ่มหลักทรัพย์อีเอสจี 100 การศึกษาครั้งนี้ใช้ข้อมูลตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 ถึงปี พ.ศ. 2562 ของบริษัทจดทะเบียนจำนวน 300 บริษัท หรือมีจำนวนข้อมูลเท่ากับ 1,500 ตัวอย่าง โดยแบ่งเป็นกลุ่มตัวอย่างที่อยู่ในกลุ่มหลักทรัพย์อีเอสจี 100 จำนวน 246 ตัวอย่าง และบริษัทที่ไม่อยู่ในกลุ่มหลักทรัพย์อีเอสจี 100 จำนวน 1,254 ตัวอย่าง ผลการวิเคราะห์ค่าเฉลี่ยผลต่างระหว่างต้นทุนเงินทุนของบริษัทกลุ่มหลักทรัพย์อีเอสจี 100 กับที่ไม่อยู่ในกลุ่มหลักทรัพย์อีเอสจี 100 ด้วยวิธีทดสอบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยพบว่า ในบางอุตสาหกรรม บริษัทในกลุ่มหลักทรัพย์อีเอสจี 100 มีค่าเฉลี่ยผลต่างต้นทุนเงินทุนของทั้งส่วนของผู้ถือหุ้นและจากการก่อหนี้ แตกต่างจากบริษัทที่ไม่อยู่ในกลุ่มหลักทรัพย์อีเอสจี 100 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ สอดคล้องกับค่าเฉลี่ยผลต่างต้นทุนเงินทุนรวมทุกอุตสาหกรรม กล่าวคือ ค่าเฉลี่ยผลต่างต้นทุนผู้ถือหุ้นของบริษัทในกลุ่มหลักทรัพย์อีเอสจี 100 จะมีค่าน้อยกว่าที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มหลักทรัพย์อีเอสจี 100 เท่ากับ 0.96% ที่ระดับนัยสำคัญ 0.01 ส่วนค่าเฉลี่ยผลต่างต้นทุนหนี้สินของบริษัทในกลุ่มหลักทรัพย์อีเอสจี 100 จะมีค่ามากกว่าที่ไม่อยู่ในกลุ่มหลักทรัพย์อีเอสจี 100 เท่ากับ 0.10% ที่ระดับนัยสำคัญ 0.10 นอกจากนี้ผลการวิเคราะห์การถดถอยของต้นทุนเงินทุน พบว่า การมีรายชื่ออยู่ในกลุ่มหลักทรัพย์อีเอสจี 100 มีความสัมพันธ์กับต้นทุนเงินทุนของบริษัทในประเทศไทยอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ทั้งส่วนของผู้ถือหุ้นและจากการก่อหนี้ โดยบริษัทในกลุ่มหลักทรัพย์อีเอสจี 100 จะมีความสัมพันธ์ในทิศทางตรงกันข้ามกับต้นทุนผู้ถือหุ้น แต่มีความสัมพันธ์เชิงบวกกับต้นทุนหนี้สินโดยการที่บริษัทอยู่ในกลุ่มหลักทรัพย์อีเอสจี 100 จะทำให้มีต้นทุนผู้ถือหุ้นน้อยกว่าที่ไม่อยู่ในกลุ่มหลักทรัพย์อีเอสจี 100 เท่ากับ 0.26% ที่ระดับนัยสำคัญ 0.10 และจะมีต้นทุนหนี้สินมากกว่าที่ไม่อยู่ในกลุ่มหลักทรัพย์อีเอสจี 100 เท่ากับ 0.13% ที่ระดับนัยสำคัญ 0.01 ผลการวิเคราะห์ค่าเฉลี่ยผลต่างของต้นทุนเงินทุน ให้ผลลัพธ์เช่นเดียวกับผลการวิเคราะห์การถดถอยของต้นทุนเงินทุนทั้ง 2 แบบจำลอง นั่นคือ บริษัทที่อยู่ในกลุ่มหลักทรัพย์อีเอสจี 100 จะมีต้นทุนผู้ถือหุ้นน้อยกว่าที่ไม่อยู่ในกลุ่มหลักทรัพย์อีเอสจี 100 ส่วนต้นทุนหนี้สิน พบว่า บริษัทที่อยู่ในกลุ่มหลักทรัพย์อีเอสจี 100 จะมีต้นทุนหนี้สินมากกว่าที่ไม่อยู่ในกลุ่มหลักทรัพย์อีเอสจี 100 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ งานวิจัยนี้ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการนำประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) มาใช้ในการดำเนินงานของกิจการ เพราะข้อมูลอีเอสจี เป็นช่องทางในการสื่อสารระหว่างกิจการกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายนอก ทำให้รับรู้ถึงผลการดำเนินงานในด้านต่างๆของบริษัทนอกเหนือจากข้อมูลทางการเงิน โดยจะช่วยสร้างความตระหนักให้บริษัทจดทะเบียนหันมาเปิดเผยข้อมูลอีเอสจีจนได้รับคัดเลือกให้อยู่ในกลุ่มหลักทรัพย์อีเอสจี 100 นอกจากนี้ยังเหมาะกับนักลงทุน ที่ใช้เกณฑ์อีเอสจีในการพิจารณาแนวทางลงทุน โดยนำเอากลุ่มหลักทรัพย์อีเอสจี 100 มาใช้เป็น ส่วนหนึ่งในการลงทุนให้สอดคล้องกับความต้องการของตนเองen_US
Appears in Collections:BA: Independent Study (IS)

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
611532201-ปานฤทัย ท่าช้าง.pdf1.2 MBAdobe PDFView/Open    Request a copy


Items in CMUIR are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.