Please use this identifier to cite or link to this item: http://cmuir.cmu.ac.th/jspui/handle/6653943832/46039
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.advisorเศกสิน ศรีวัฒนานุกูล-
dc.contributor.advisorกาญจนา โชคถาวร-
dc.contributor.authorนพฤทธิ์ กันทาen_US
dc.date.accessioned2018-04-09T03:55:26Z-
dc.date.available2018-04-09T03:55:26Z-
dc.date.issued2557-10-
dc.identifier.urihttp://cmuir.cmu.ac.th/jspui/handle/6653943832/46039-
dc.description.abstractThis Independent Study on “Efficiency of POLIS Database for the Investigation Division of the Provincial Police Region 5” had the objectives of (1) studying the police officers’ level of knowledge on technological application of the POLIS Database for the Investigation Division of the Provincial Police Region 5; (2) studying the level of understanding of the technological application of the POLIS Database and (3) their efficiency in using the POLICE Database. The sample group consisted of 190 police officers of the Investigation Division of the Provincial Police Region 5, Chiang Mai Province. The tool used was a questionnaire comprising 80 items related to the efficiency of the POLIS Database application in the Investigation Division of the Provincial Police Region 5. The data was analyzed by descriptive statistics to find the frequency, percentage, mean, standard deviation as well as the T-test and the F-test. The study results showed the following: (1) the police officers of the Investigation Division of the Provincial Police Region 5 had a level of knowledge of the technological application of the POLIS Database of 85.80% with the high levels being in basic computer literacy followed by computer application, investigation principles and the least knowledge in computer network systems. (2) The police officers’ level of understanding of the technological application of the POLIS Database for crime investigation was 80.87% with the high levels being in the application of the POLIS Database during the incident followed by application after the occurrence and the least understanding of the POLIS Database application being before the occurrence of the incident. (3) Their efficiency in using the POLIS Database in criminal investigation was found to be the highest whereas the hypotheses test showed that age difference affected their efficiency in using the POLIS Database.en_US
dc.language.isothen_US
dc.publisherเชียงใหม่ : บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่en_US
dc.subjectตำรวจภูธรภาค 5en_US
dc.subjectฐานข้อมูล POLISen_US
dc.subjectงานสืบสวนคดีอาชญากรรมen_US
dc.titleประสิทธิภาพของระบบฐานข้อมูล POLIS เพื่อปฏิบัติงานสืบสวนคดีอาชญากรรมของเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5en_US
dc.title.alternativeEfficiency of POLIS Database Investigation Division Police Provincial Region 5en_US
dc.typeIndependent Study (IS)-
thailis.classification.ddc025.04-
thailis.controlvocab.thashตำรวจภูธรภาค 5-
thailis.controlvocab.thashฐานข้อมูล-
thailis.controlvocab.thashอาชญากรรม-
thailis.controlvocab.thashตำรวจ-
thailis.manuscript.callnumberว 025.04 น169ป-
thesis.degreemasteren_US
thesis.description.thaiAbstractรายงานผลประสิทธิภาพของระบบฐานข้อมูล POLIS เพื่อปฏิบัติงานสืบสวนคดีอาชญากรรมของเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาระดับความรู้การใช้เทคโนโลยีระบบฐานข้อมูลPOLISเพื่อปฏิบัติงานการสืบสวนคดีอาชญากรรมของเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 (2) ศึกษาระดับความเข้าใจการใช้เทคโนโลยีระบบฐานข้อมูลPOLISเพื่อปฏิบัติงานการสืบสวนคดีอาชญากรรมของเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5และ (3) ศึกษาประสิทธิภาพการใช้เทคโนโลยีระบบฐานข้อมูลPOLISเพื่อปฏิบัติงานการสืบสวนคดีอาชญากรรมของเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 ซึ่งกลุ่มตัวอย่างประชากรที่ศึกษามีจำนวน 190 นาย สังกัดกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 จังหวัดเชียงใหม่ โดยใช้แบบสอบถามประสิทธิภาพของระบบฐานข้อมูล POLIS เพื่อปฏิบัติงานสืบสวนคดีอาชญากรรมของเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา จำนวน 1 ฉบับ 80 ข้อ แล้วนำมาวิเคราะห์สถิติเชิงพรรณนา เพื่อหาค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบสมมติฐานด้วยค่า T (T-Test) และ (F-Test) ผลการศึกษา พบว่า (1) เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 มีระดับความรู้การใช้เทคโนโลยีระบบฐานข้อมูล POLIS เพื่อปฏิบัติงานการสืบสวนคดีอาชญากรรม คิดเป็นร้อยละ 85.80 โดยมีความรู้ที่สูง คือ ด้านพื้นฐานคอมพิวเตอร์ รองลงมาคือ ด้านการใช้งานคอมพิวเตอร์ หลักการสืบสวน และพบน้อยที่สุด คือ ด้านระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ (2) เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 มีระดับความเข้าใจการใช้เทคโนโลยีระบบฐานข้อมูล POLIS เพื่อปฏิบัติงานการสืบสวนคดีอาชญากรรม คิดเป็นร้อยละ 80.67 โดยมีความเข้าใจสูงในการใช้ระบบฐานข้อมูล POLIS ขณะเกิดเหตุ รองลงมาคือ ความเข้าใจการใช้ระบบฐานข้อมูล POLIS หลังเกิดเหตุ และความเข้าใจที่น้อยที่สุดในการใช้ระบบฐานข้อมูล POLIS คือ ก่อนเกิดเหตุ และ (3) ประสิทธิภาพการใช้เทคโนโลยีระบบฐานข้อมูล POLIS เพื่อปฏิบัติงานการสืบสวนคดีอาชญากรรมของเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 อยู่ในระดับประสิทธิภาพมากที่สุด และผลทดสอบสมมติฐาน พบว่า อายุที่แตกต่างกันส่งผลให้ประสิทธิภาพการใช้เทคโนโลยีระบบฐานข้อมูล POLIS แตกต่างกันen_US
Appears in Collections:SOC: Independent Study (IS)

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
ABSTRACT.pdfABSTRACT190.2 kBAdobe PDFView/Open    Request a copy
APPENDIX.pdf APPENDIX216.41 kBAdobe PDFView/Open    Request a copy
CHAPTER 1.pdfCHAPTER 1207.77 kBAdobe PDFView/Open    Request a copy
CHAPTER 2.pdfCHAPTER 21.16 MBAdobe PDFView/Open    Request a copy
CHAPTER 3.pdfCHAPTER 3170.64 kBAdobe PDFView/Open    Request a copy
CHAPTER 4.pdfCHAPTER 4274.95 kBAdobe PDFView/Open    Request a copy
CHAPTER 5.pdf CHAPTER 5207.29 kBAdobe PDFView/Open    Request a copy
CONTENT.pdfCONTENT164.59 kBAdobe PDFView/Open    Request a copy
COVER.pdfCOVER591.59 kBAdobe PDFView/Open    Request a copy
REFERENCE.pdf REFERENCE165.32 kBAdobe PDFView/Open    Request a copy


Items in CMUIR are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.