Please use this identifier to cite or link to this item: http://cmuir.cmu.ac.th/jspui/handle/6653943832/67067
Title: การประยุกต์ใช้การวิเคราะห์เครือข่ายในการศึกษาบทบาทของการเชื่อมโยงการบริหารต่อเงินฝากของสถาบันการเงินไทย
Other Titles: An Application of Network Analysis to Study Role of Administrative Linkages on Thailand Financial Institutes’ Deposit
Authors: อรทัย ณรงค์ชัย
อนุวัฒน์ แสนทวีสุข
คมกริช วงศ์แข
Authors: อรทัย ณรงค์ชัย
อนุวัฒน์ แสนทวีสุข
คมกริช วงศ์แข
Keywords: การเชื่อมโยงของผู้บริหาร;การวิเคราะห์เครือข่าย;สถาบันการเงิน
Issue Date: 2559
Publisher: คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
Citation: วารสารเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 20, 2 (ก.ค.-ธ.ค. 2562), 75-91
Abstract: การสร้างเครือข่ายระหว่างผู้บริหารของสถาบันการเงินเป็นการสร้างโอกาสในการเข้าถึงแหล่งข้อมูลข่าวสารนํามาซึ่งความได้เปรียบของสถาบันการเงิน การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์หลักสองประการคือ การวัดดัชนีการมีเครือข่ายและศึกษาบทบาทของดัชนีดังกล่าวต่อปริมาณเงินฝากของสถาบันการเงิน โดยใช้ข้อมูลการดํารงตําแหน่งของผู้บริหารและข้อมูลเงินฝากของสถาบันการเงินไทยจํานวน 16 แห่งตั้งแต่ปี 2548 ถึงปี 2557 รวม 124 ตัวอย่าง การวัดดัชนีเครือข่ายใช้การวิเคราะห์เครือข่าย (Network analysis) ด้วยโปรแกรม Ucinet 6.0 พบว่าตลอดช่วงเวลาที่ศึกษาธนาคารแลนด์แอนด์เฮาส์มีค่าความเป็นศูนย์กลาง (Degree centrality) สูงสุด ธนาคารอาคารสงเคราะห์มีค่าความเป็นศูนย์กลางประเภทความใกล้ชิด (Closeness centrality) และธนาคารไทยพาณิชย์มีความเป็นค่าคั่นกลาง (Betweenness centrality) มากที่สุดส่วนแบบจําลองเงินฝากของสถาบันการเงินแบ่งเป็นด้านอุปสงค์และอุปทาน ด้านอุปสงค์ตัวแปรตามได้แก่ปริมาณเงินฝาก ส่วนด้านอุปทานตัวแปรตาม ได้แก่ ดอกเบี้ยจ่าย โดยปัจจัยที่ส่งผลต่อปริมาณเงินฝากในทิศทางเดียวกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติได้แก่ เงินปันผลจ่าย หนี้สินของสถาบันการเงิน และประเภทของธนาคารขนาดใหญ่ของประเทศ 4 แห่งเช่นเดียวกับค่าความเป็นศูนย์กลางประเภทความใกล้ชิด และมีขนาดสูงกว่าค่าความเป็นศูนย์กลาง ส่วนการเกิดวิกฤติสินเชื่อซับไพร์มส่งผลต่อปริมาณเงินฝากในทิศทางตรงข้าม ในส่วนของแบบจําลองทางด้านอุปทานผลการศึกษาพบว่า ปัจจัยที่ส่งผลต่อดอกเบี้ยจ่ายในทิศทางเดียวกันได้แก่ ประเภทของธนาคารขาดใหญ่ของประเทศ 4แห่ง เงินปันผลจ่าย หนี้สินของสถาบันการเงิน และเช่นเดียวกับค่าความเป็นศูนย์กลาง ส่วนการเกิดวิกฤติสินเชื่อซับไพร์มและยอดการให้สินเชื่อ ส่งผลต่อดอกเบี้ยจ่ายในทิศทางตรงข้าม เช่นเดียวกับด้านอุปสงค์ ผลการศึกษาชี้ให้เห็นว่า การมีเครือข่ายของผู้บริหารส่งผลต่อผลการดําเนินงานของสถาบันการเงินไทย ซึ่งสามารถสะท้อนถึงความไม่โปร่งใสและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเช่น ธนาคารแห่งประเทศไทยจําเป็นต้องมีมาตรการในการดูแล
Description: วารสารเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ภายใต้การดำเนินงานโดยคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รับพิจารณาบทความวิชาการ บทความวิจัย ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับเศรษฐศาสตร์โดยใช้รูปแบบการการพิจารณาบทความโดยที่ผู้ทรงคุณวุฒิจะไม่ทราบชื่อผู้เขียน และผู้เขียนจะไม่ทราบชื่อผู้ทรงคุณวุฒิ (Double Blind Process) มีจุดประสงค์เพื่อเผยแพร่วิชาการด้านเศรษฐศาสตร์ และเป็นสื่อกลางในการรายงานความก้าวหน้าทางวิชาการ
URI: https://www.tci-thaijo.org/index.php/CMJE/article/view/72996/59599
http://cmuir.cmu.ac.th/jspui/handle/6653943832/67067
ISSN: 0859-8479
Appears in Collections:CMUL: Journal Articles

Files in This Item:
There are no files associated with this item.


Items in CMUIR are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.