Please use this identifier to cite or link to this item: http://cmuir.cmu.ac.th/jspui/handle/6653943832/66303
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.authorปวีณรัตน์ สิงสินen_US
dc.contributor.authorรุจ ศิริสัญลักษณ์en_US
dc.contributor.authorบุศรา ลิ้มนิรันดร์กุลen_US
dc.contributor.authorแสงทิวา สุริยงค์en_US
dc.date.accessioned2019-08-21T09:18:25Z-
dc.date.available2019-08-21T09:18:25Z-
dc.date.issued2562en_US
dc.identifier.citationวารสารเกษตร 35, 1 (ม.ค. 2562), 125-136en_US
dc.identifier.issn0857-0841en_US
dc.identifier.urihttp://journal.agri.cmu.ac.th/pdf/J00141_C01127.pdfen_US
dc.identifier.urihttp://cmuir.cmu.ac.th/jspui/handle/6653943832/66303-
dc.descriptionวารสารเกษตร เป็นวารสารวิชาการของคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยวารสารจะออกราย 4 เดือน (ม.ค. พฤษภาคม และกันยายน) ซึ่งจะพิมพ์เผยแพร่ผลงานวิชาการสาขา เกษตรศาสตร์ อุตสาหกรรมเกษตร สัตวแพทย์ และชีววิทยา ทั้งจากภายในและภายนอกมหาวิทยาลัย และปัจจุบันวารสารเกษตรอยู่ในฐานข้อมูลระดับชาติ ศูนย์ดัชนีการอ้างอิงวารสารไทย (TCI)en_US
dc.description.abstractการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศต่อผู้ปลูกข้าวในอำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ 2) การปรับตัวและการแก้ไขปัญหาในการปลูกข้าวของผู้ปลูกข้าว ภายใต้สภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง และ 3) ปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะของผู้ปลูกข้าวในการปรับตัวภายใต้สภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง การวิจัยที่ใช้เป็นแบบ mixed method (exploratory mixed method design) เป็นการวิจัยที่มีขั้นตอนการเก็บข้อมูลเชิงคุณภาพก่อนแล้วจึงทำการเก็บข้อมูลเชิงปริมาณ การวิจัยเชิงคุณภาพผู้วิจัยสัมภาษณ์เชิงลึกเกษตรกรจำนวน 7 ราย และสัมภาษณ์กลุ่ม จำนวน 13 ราย แล้วนำข้อมูลที่ได้มาสร้างแบบสัมภาษณ์เพื่อใช้เก็บข้อมูลเชิงปริมาณโดยมีการเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 97 ราย วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณใช้สถิติพรรณนาและวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพใช้การวิเคราะห์เนื้อหา ผลการศึกษาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศพบว่า ผู้ปลูกข้าว ได้รับผลกระทบจากการเกิดโรคระบาดและแมลงศัตรูพืช ดินแห้ง อีกทั้งปัญหาน้ำไม่เพียงพอต่อการปลูกข้าว ด้านการปรับตัวผู้วิจัยแบ่งออกเป็น 8 ด้านตามแนวทางที่ได้จากการสัมภาษณ์กลุ่ม จากการสัมภาษณ์เชิงลึก เกษตรกรให้ความสำคัญกับการปรับตัว 2 ด้าน โดยเลือกที่จะใช้ในการปรับตัวมากที่สุด คือการปรับตัวด้านเวลาในการปลูกและการปรับตัวด้านวิธีการปลูกซึ่งการวิจัยเชิงปริมาณก็ได้ผลสอดคล้องกับเชิงคุณภาพ คือการปรับเวลาการปลูก (54.6%) และการปรับวิธีการปลูก (49.5%) ปัญหาและอุปสรรคในการปรับตัวของผู้ปลูกข้าว พบว่าขาดความรู้ ขาดการส่งเสริมเรื่องการปรับตัว และสนับสนุนจากหน่วยงาน ขาดงบประมาณในการปรับตัวต่อสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง ผู้ปลูกข้าวเสนอว่าหน่วยงานรัฐควรวางแผนการจัดการน้ำ ให้การสนับสนุนด้านความรู้ และให้ข้อมูลเกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศ ดังนั้นเพื่อให้การปรับตัวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นการจัดอบรมและให้ความรู้เกี่ยวกับการปลูกข้าวในสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งสำคัญยิ่งen_US
dc.language.isoThaen_US
dc.publisherคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่en_US
dc.subjectการปรับตัว (Adaptation)en_US
dc.subjectการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (climate change)en_US
dc.titleการปรับตัวของผู้ปลูกข้าวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ในอำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่en_US
dc.title.alternativeRice Growers’ Adaptation to Climate Change in Doi Saket District, Chiang Mai Provinceen_US
Appears in Collections:CMUL: Journal Articles

Files in This Item:
There are no files associated with this item.


Items in CMUIR are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.